สำหรับการทำเพลงในปัจจุบันนั้นถือว่าสะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เพราะมีคอมพิวเตอร์เพียงแค่เครื่องเดียวก็สามารถเริ่มทำเพลงได้แล้ว และราคาของอุปกรณ์สำหรับการเริ่มต้นทำเพลงนั้นมีราคาถูกลงมากว่าแต่ก่อนค่อนข้างมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตัวคอมพิวเตอร์ โปรแกรมทำเพลง หรือ Audio Interface เองก็ตาม
สำหรับมือใหม่อาจจะงงกับศัพท์คำใหม่ที่เรียกว่าAudio Interface(ออดิโออินเตอร์เฟส) ซึ่งจริง ๆ แล้วสำหรับคนไทยมีคำที่ใช้เรียกกันติดปากว่า ซาวด์การ์ด นั้นเอง แต่สำหรับAudio Interfaceนั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่องดนตรีได้ โดยจะมีช่องเสียบต่าง ๆ (i/o) ที่ใช้ต่อเข้ากับเครื่องดนตรีได้เลย เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับงานดนตรีถือเป็นจุดแตกต่างจากซาวด์การ์ดทั่ว ๆ ไปที่อยู่ในคอมพิวเตอร์
Audio Interface สามารถเปรียบเทียบได้กับกล้องดิจิตอลที่มีหน้าที่บันทึกข้อมูล กล้องบันทึกภาพที่เราเห็น ส่วน ออดิโออินเตอร์เฟส บันทึกสิ่งที่เราได้ยินนั้นเอง
ส่งที่คุณจะได้ทราบเกี่ยวกับ Audio Interface จากบทความนี้
- Audio Interface มีหลักการทำงานอย่างไร
- วิธีการเชื่อมต่อของ ออดิโออินเตอร์เฟส กับเครื่องดนตรีและไมโครโฟน
- วิธีการเชื่อมต่อของ ออดิโออินเตอร์เฟส กับคอมพิวเตอร์
- คุณภาพเสียงของ Audio Interface ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
- แนะนำ 5 รุ่น Audio Interface ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
Audio Interface มีหลักการทำงานอย่างไร
การทำงานของAudio Interfaceนั้นเป็นการแปลงสัญญาณไฟฟ้า(Analog)ที่ได้จากเครื่องดนตรีหรือไมโครโฟนเป็นข้อมูลดิจิตอล(Digital)และทำการส่งไปยังคอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องบันทึกเสียงนั้นเอง และยังสามารถทำการแปลงข้อมูลดิจิตอลกลับมาเป็นอนาล็อคได้ด้วย
Audio Interface ทำหน้าที่แปลงสัญญาณทั้ง 2 รูปแบบกลับไป-กลับมานั้นเองโดยการแปลงสัญญาณไปมานี้จะใช้ Converter หรือตัวแปลงสัญญาณนั้นเอง ในAudio Interfaceทุกตัวนั้นจะมี Converter อยู่ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณไปมา ยิ่ง Converter ทำงานได้ละเอียดก็ทำให้คุณภาพของเสียงนั้นดีขึ้นไปด้วยนั้นเอง เปรียบเทียบได้กับความละเอียดของกล้องที่สามารถวัดได้เป็นความละเอียดแบบ Pixle นั้นเอง
โดยการทำงานของ Converter นั้นจะต้องดูตัวเลข 2 ชุดที่บ่งบอกถึงความละเอียดของอุปกรณ์ นั้นก็คือ
1.Bit Rate ตัวเลขชุดนี้จะเป็นการบ่งบอกถึงความดังที่ตัวAudio Interfaceสามารถทำได้ ซึ่งในปัจจุบันจะอยู่ที่ 24 bit เป็นมาตรฐาน
2.Sample Rate ตัวเลขชุดนี้จะบ่งบอกถึงความละเอียดที่ตัวAudio Interfaceจะสามารถทำได้ยิ่งสูงก็จะยิ่งละเอียด โดยมาตรฐานจะอยู่ที่ 96 kHz กับ 192 kHz ถ้ายิ่งบันทึกที่ความละเอียดสูงก็จะทำให้ไฟล์เสียงนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกด้วย
ตัวเลข 2 ชุดนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้เล่นมือใหม่ต้องรู้จักในการเริ่มต้นทำเพลงเพราะส่งผลต่อการทำงานเพลงอีกด้วย และยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างในการเลือกซื้อAudio Interfaceซักตัวนึง
สิ่งที่ควรจะต้องรู้อย่างต่อไปคือ ช่องการเชื่อมต่อของตัวAudio Interfaceว่าเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แบบไหนได้บ้าง และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของเราด้วยพอร์ทอะไร
วิธีการเชื่อมต่อของ ออดิโออินเตอร์เฟส กับเครื่องดนตรีและไมโครโฟน
Audio Interface จะระบุว่าสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องดนตรีด้วย Input แบบไหนโดยจะต้องดูว่าใช้เอาเสียบชนิดไหนได้บ้าง โดยจะมี 2 ชนิด คือ หัวแบบ XLR (สำหรับใช้กับไมโครโฟน) และ TRS (สำหรับใช้กับเครื่องดนตรี) โดยยิ่งมีจำนวนช่องเสียบเยอะก็ทำให้อัดเครื่องดนตรีได้หลายชิ้นพร้อมกันมากขึ้น
วิธีการเชื่อมต่อของ ออดิโออินเตอร์เฟส กับคอมพิวเตอร์
การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของAudio Interfaceนั้นมีหลายรูปแบบเป็นพอร์ทเชื่อมต่อแบบชนิดต่าง ๆ ทั้ง USB , Firewire , Thunderbolt โดยพอร์ททั่วไปที่นิยมก็จะเป็น USB เพราะคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องมีถือเป็นพอร์ทมาตรฐาน
คุณภาพเสียงของ Audio Interface ขึ้นอยู่กับ Pre Amp ด้วย
ส่วนของ Pre Amp ในAudio Interfaceนั้นจะเป็นการขยายสัญญาณไฟฟ้าที่ได้รับจากเครื่องดนตรีหรือไมโครโฟนนั้นเอง ซึ่งแต่ละรุ่นและแบรนด์นั้นจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองขึ้นอยู่กับความชอบAudio Interfaceแต่ละยี่ห้อนั้นจะให้เสียงที่ให้ความรู้สึกนั้นแตกต่างกันออกไป
ผ่านไปแล้วกับการทำงานและส่วนประกอบหลัก ๆ ในการเลือกซื้อAudio Interfaceสำหรับมือใหม่ สิ่งที่ขาดไปไม่ได้อีกส่วนนึงนั้นก็คือ เครื่องดนตรีหรือไมโครโฟน ซึ่งสำหรับนักดนตรีแล้ว ทุกคนน่าจะมีความรู้ในส่วนนี้กันอยู่แล้ว และสำหรับเครื่องดนตรีอคูสติคที่ไม่มีภาคขยายไฟฟ้านั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ไมโครโฟนในการรับเสียงแทน โดยไมโครโฟนที่ใช้นั้นจะเป็น ไมโครโฟน คอนเดนเซอร์ (Conderser Microphone) ที่จะรับเสียงได้ดีกว่าไมโครโฟนไดนามิคที่ใช้อยู่ทั่วไป
- ตามหาโปรแกรมทำเพลงฟรี คลิกที่นี้
- บทความแนะนำรุ่น ไมค์คอนเดนเซอร์ คลิกเลย
5 รุ่น Audio Interface ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ อยากทำเพลง
1. M-Audio AIR 192|4 ราคา 3600 บาท
เริ่มต้นกับAudio Interfaceตัวแรกที่สามารถใช้งานได้ดีกับแบรนด์ M-Audio ที่ถือว่าคุณภาพใช้งานได้ดี มาตรฐานใช้ได้ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ คือ Bit Rate และ Sample Rate มาในระดับสูงแต่ราคาไม่แพง เหมาะกับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มทำเพลงแต่งบไม่เยอะ
สอบถาม-สั่งซื้อ ได้ที่ : https://www.facebook.com/chordtab/
Spec รายละเอียด
| Input/Output | 2-in/2-out |
| Bit Rate / Sample Rate | 24-bit/192kHz |
| Phantom Power | Yes |
| Port | USB |
| OS | Mac/Windows |
2. PreSonus Studio 24c ราคา 6590 บาท
สำหรับ PreSinus รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขยับมาจากรุ่นเริ่มต้นทำให้ราคานั้นขยับขึ้นมาพอสมควรแต่ก็เพิ่มมาด้วยคุณภาพของ Preamp ของ PreSonus ที่ถือว่าทำออกมาได้ดี รวมไปถึง Converter ที่ให้รายละเอียดสูงถึง 24 bit และ 192kHz ทำให้เป็นAudio Interfaceอีกตัวนึงที่น่าสนใจเลยทีเดียวเพราะมาพร้อมกับโปรแกรมทำเพลง Studio One Artist ด้วย
สอบถาม-สั่งซื้อ ได้ที่ : https://www.facebook.com/Millionheadpro/
Spec รายละเอียด
| Input/Output | 2-in/2-out |
| Bit Rate / Sample Rate | 24-bit/192kHz |
| Phantom Power | Yes |
| Port | USB |
| OS | Mac/Windows |
| MIDI I/O | Yes |
3. Focusrite Scarlett 2i2 3rd Gen ราคา 6490 บาท
Audio Interfaceรุ่นยอดนิยมสำหรับมือใหม่ชาวไทย ด้วยราคาที่ไม่สูงมากแต่ได้ฟังชั่นที่ครบ รวมไปถึง Preamp ที่ถือว่าได้มาตรฐาน ทำให้ Focusrite นั้นเป็นที่นิยมสำหรับมือใหม่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังแถม Plug In มาให้อีกด้วย
สอบถาม-สั่งซื้อ ได้ที่ : https://www.facebook.com/ProPlugin/
Spec รายละเอียด
| Input/Output | 2-in/2-out |
| Bit Rate / Sample Rate | 24-bit/192kHz |
| Phantom Power | Yes |
| Port | USB |
| OS | Mac/Windows |
4. Audient iD4 ราคา 7900 บาท
ขยับราคากันขึ้นมาอีกนิดสำหรับ Audient แต่รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะ Converter ของทางแบรนด์อยู่ในระดับที่สูงมากให้เสียงที่มีน้ำมีนวลดีที่เดียว เรียกว่าถ้าได้อยากAudio Interfaceระดับมืออาชีพในราคาหลักพันก็ถือว่าตัวนี้ผ่านสบาย ๆ
สอบถาม-สั่งซื้อ ได้ที่ : https://www.facebook.com/kimlengaudio/
Spec รายละเอียด
| Input/Output | 2-in/2-out |
| Bit Rate / Sample Rate | 24-bit/192kHz |
| Phantom Power | Yes |
| Port | USB |
| OS | Mac/Windows |
5. Solid State Logic SSL2 ราคา 7290 บาท
สำหรับAudio Interfaceตัวสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะ Solid State Logic ถือเป็นอีกนึงยี่ห้อที่ขับเคลื่อนวงการดนตรีของโลกเลยก็ว่าได้ โดยปกติทาง SSL นั้นจะทำ Mixer Board ระดับห้องอัดเท่านั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ลงมาทำตลาด Home Studio ด้วย โดยสิ่งที่นำมาด้วยคือ Preamp ระดับโปรของ SSL ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ถือว่าเป็นAudio Interfaceที่มาเขย่าวงการเลยทีเดียว
สอบถาม-สั่งซื้อ ได้ที่ : https://www.facebook.com/BtwinsSSL/
Spec รายละเอียด
| Input/Output | 2-in/2-out |
| Bit Rate / Sample Rate | 24-bit/192kHz |
| Phantom Power | Yes |
| Port | USB |
| OS | Mac/Windows |
5 รุ่นนี้ที่แนะนำไปนั้นเป็นAudio Interfaceบางส่วนที่มือใหม่ควรจะเริ่มต้นแต่สำหรับคนที่ยังไม่ถูกใจ ยังมี Audio Interface จากหลายแบรนด์ที่น่าสนใจ ให้ได้ลองทำความรู้จัก
