สำหรับใครที่เล่นกีต้าร์ไฟฟ้ามาได้ซักพักแล้ว คงจะได้ยินเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าในเพลงต่าง ๆ ที่ฟังดู มีมิติ มีลูกเล่น ต่างจากเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าทั่วไปที่เคยเล่น เสียงที่มีลูกเล่นนั้นคือเสียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ผ่านเอฟเฟคกีต้าร์ นั้นเอง โดยเสียงเอฟเฟคนั้นมีหลายชนิด ทั้งเสียงแตก เสียงคอรัส เสียงดีเลย์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละเสียงมีเอกลักษณ์ต่างกัน และยิ่งไปกว่านั้นสามารถนำมาผสมกันได้อีกด้วย โดยเสียงแต่ละชนิดก็จะมี วิธีปรับเอฟเฟคกีต้าร์ ต่างกันออกไป
เสียงที่ผ่านเอฟเฟคเหล่านี้จะต้องมีการปรับแต่ง ซึ่งการปรับแต่งนั้นไม่มีถูกผิด ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ เปรียบเสมือนกับอาหารที่ปรุงแล้วแต่ความชอบ แต่ถ้าเราสามารถปรับเสียงให้เพราะและคนส่วนมากชอบได้ก็เปรียบเสมือนกับคนที่ทำอาหารได้อร่อย
ใครกำลังตามหามัลติเอฟเฟคกีต้าร์อยู่ ตามไปอ่านกันเลย! แนะนำ 10 มัลติเอฟเฟคกีต้าร์ไฟฟ้า รุ่นยอดนิยม มือกีต้าร์ต้องหามาใช้ 2019
หลักการสำหรับวิธีปรับเสียงเอฟเฟคกีต้าร์ มีอะไรบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟคประเภทไหนทั้ง มัลติเอฟเฟค หรือ เอฟเฟคก้อน ก็จะมีหลักการเดียวหากเป็นเอฟเฟคชนิดเดียวกัน โดยเสียงเอฟเฟคแต่ละชนิดจะมีวิธีการปรับแต่งที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับชนิดของเอฟเฟค ซึ่งจะมี Parameter (ตัวหมุนปรับแต่ง) คล้าย ๆ กันสำหรับเอฟเฟคเสียงเดียวกัน
โดยแต่ละยี่ห้ออาจจะใช้ชื่อเรียก Parameter คนละแบบแต่ว่าให้ผลที่เหมือนกัน ซึ่งในเอฟเฟคหนึ่งเสียงอาจจะมี Parameter ให้ปรับแต่งมากกว่า 2-3 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกันว่า Parameter แต่ละตัวบนเอฟเฟคชนิดต่าง ๆ มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง สำหรับเสียงเอฟเฟคพื้นฐานที่มือใหม่โดยเฉพาะมือกีต้าร์ควรรู้จักและควรหัดปรับแต่งให้ชำนาญนั้น มี 4 เสียงหลักๆด้วยกัน
4 เสียงเอฟเฟคพื้นฐาน ที่ควรปรับให้ชำนาญ
- เสียงแตก (Distortion/Overdrive)
- เสียงหน่วงหรือดีเลย์ (Delay)
- เสียงสะท้อนหรือรีเวิป (Reverb)
- เสียงคอรัส (Chorus)
- สรุปวิธีปรับเสียงเอฟเฟคกีต้าร์
4 เสียงนี้ถือเป็นเสียงเอฟเฟคหลักๆ ที่มือกีต้าร์ไฟฟ้าทั่วโลกใช้กันเป็นประจำ หากเราสามารถปรับแต่งเสียงเหล่านี้ได้ลงตัว กลมกล่อม ย่อมที่จะทำให้เสียงกีต้าร์ของเราฟังดูมีมิติและลึกล้ำขึ้นมาอย่างแน่นอน
1. วิธีการปรับเอฟเฟคเสียงแตก (Distortion/Overdrive)
เสียงแตกถือเป็นเสียงเอฟเฟคแรก ๆ ที่มือกีต้าร์จะต้องรู้จักและหัดปรับใช้ให้เป็น เพราะส่วนใหญ่มักจะติดมากับแอมป์กีต้าร์อยู่แล้ว โดยในแอมป์กีต้าร์ส่วนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แชลแนล คือ เสียงคลีนและเสียงแตก โดยเสียงแตกนั้นถือเป็นเอฟเฟคชนิดนึง ที่มือกีต้าร์จำเป็นจะต้องรู้ว่าต้องการเสียงแตกประมาณไหน สำหรับเพลงแบบไหน เพื่อที่สามารถจะปรับให้ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ได้ยิน
โดยปกติบนเอฟเฟคเสียงแตกนั้นจะมีปุ่มให้หมุนอยู่ไม่มากนัก แต่ในบางรุ่นอาจจะมีให้ปรับแต่งย่านเสียงด้วยนอกจากเสียงที่แตกมากหรือน้อย ยังไงลองมาทำความรู้จัก knob ต่าง ๆ กัน
ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงแตก
- Gain/Distortion/Overdrive ปุ่มนี้ไม่ว่าจะเรียกชื่อไหนก็ตามจะหมายถึงระดับความแตกของเสียง ว่าต้องการให้เสียงแตกมากน้อยขนาดไหน โดยจากรูปตัวอย่างจะเห็นว่าทั้งหมด มีปุ่มนี้ให้หมุน สำหรับมัลติเอฟเฟคก็จะมีค่านี้ให้ตั้งเหมือนกัน
- Level/Output/Volume เป็นอีกหนึ่งปุ่มที่ขาดไม่ได้บนเอฟเฟคทุกชนิด ซึ่งเป็นการปรับระดับความดังของเอฟเฟคนั้นเอง
- Tone/Filter เป็นการปุ่มในการเร่งหรือลดความถี่บางย่านลง ซึ่งจะขึ้นกับเอฟเฟคแต่ละรุ่น ถูกปรับแต่งมาไม่เหมือนกัน
- Bass/Middle/Treble เป็นปุ่มที่ใช้เร่งหรือลดความถี่เหมือนกันกับปุ่ม Tone แต่จะสามารถเลือกย่านความถี่ที่ต้องการได้ มีความละเอียดมากกว่าปุ่ม Tone นั้นเอง
จากปุ่มทั้งหมดที่มีบนเอฟเฟคเสียงแตกอาจจะมีบางรุ่นที่มีมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดจะมีปุ่มที่ปรับระดับความแตกและระดับความดังของเสียงอย่างแน่นอน รวมไปถึงบนแอมป์กีต้าร์ก็จะมีปุ่มในที่เหมือนกัน
สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟคเสียงแตก
เอฟเฟคเสียงแตกนั้นต้องยอมรับว่าเป็นเอฟเฟคที่แต่ละแบรนด์นั้นมีความแตกต่างกันชัดเจนมากในคาแรคเตอร์ของเสียง ทำให้หากเราได้ยินเสียงแบบนึงจากเอฟเฟคยี่ห้อนึง เราอาจจะไม่สามารถปรับได้กับเอฟเฟคที่เรามีอยู่เพราะว่าเอฟเฟคทั้ง 2 รุ่นถูกออกแบบมาให้แตกต่างกัน
2. วิธีการปรับเสียงเอฟเฟคดีเลย์ (Delay)
หลักการทำงานของเสียงดีเลย์ คือการทำซ้ำเสียงเดิมแล้วปล่อยเสียงนั้นตามออกมาหลังจากเสียงจริงได้ปล่อยออกไปแล้ว ทำให้ได้ยินเสียงที่ดังซ้ำ ๆ วนไปเรื่อย ๆ นั้นเอง ซึ่งดีเลย์เป็นเอฟเฟคที่ถ้ามือกีต้าร์คนไหนสามารถปรับให้ชำนาญและนำมาใช้ได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา จะสามารถสร้างมิติและความหวือหวาให้กับเพลงได้อย่างมากเลยทีเดียว
ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงดีเลย์
- Delay/Time ปุ่มที่ปรับเวลาการหน่วงของเสียงถัดไปที่จะออกมา โดยการปรับควรจะปรับให้เข้ากับจังหวะของเพลง เพื่อให้สัญญาณที่ตามออกมาตรงกับจังหวะด้วย
- Feedback/Sustain ปุ่มที่กำหนดระยะเวลาการให้เสียงที่เล่นซ้ำออกมานานแค่ไหน ถ้าปรับไว้สั้นเสียงที่ต้องการจะให้ซ้ำก็จะออกมาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ถ้าต้องการให้เสียงนั้นออกมาซ้ำๆ วนไปเรื่อยๆ ก็ให้ปรับให้นานขึ้นตามต้องการ
- Level/Mix/Volume ปุ่มระดับความดังของเอฟเฟคว่าต้องการให้เสียงที่ดีเลย์นั้น มีความดังเบาแค่ไหนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น
ปุ่มทั้ง 3 นี้เป็นเพียงปุ่มหลัก ๆ ของเอฟเฟคดีเลย์เท่านั้น ในบางรุ่นอาจจะมีปุ่มสำหรับการปรับเวลาที่ละเอียดขึ้น กำหนดเวลาได้เป็นวินาที หรืออาจจะมีปุ่มในการหยุดเสียงให้ค้าง เป็นต้น ดังนั้นจะต้องขึ้นกับรุ่นที่เลือกซื้อหากันมาใช้ แต่ปุ่ม 3 ปุ่มนี้ถือเป็นปุ่มที่จะต้องมีอย่างแน่นอนบนเอฟเฟคดีเลย์
สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟคดีเลย์
เอฟเฟคดีเลย์ นั้นจะมี 2 ชนิดหลักๆ ด้วยกันคือแบบ Analog และ Digital ซึ่งย่อมแน่นอนว่าสำหรับเอฟเฟคประเภทนี้แล้วแบบ digital จะทำงานได้ดีกว่าเพราะสามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดโดยสามารถกดจังหวะให้ได้ตรงกับเพลงก็ได้ เรียกว่ามีลูกเล่นดีกว่าอย่างชัดเจน
3. วิธีการปรับเสียงเอฟเฟครีเวิป (Reverb)
เป็นเสียงที่จำลองการสะท้อนของเสียงในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เสียงนั้นมีความรู้สึกก้อง กังวาน ดูใหญ่ขึ้น ซึ่งถ้าปรับเสียงรีเวิปได้ดีแล้ว จะทำให้เสียงกีต้าร์ของผู้เล่นดูมีความลึกมากขึ้น และทำให้เสียงกีต้าร์ของเรานั้นดูไม่แห้งหรือแฉะจนเกินไป
ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงรีเวิป
- Reverb/Level เป็นปุ่มค่าความก้อง ให้ความรู้สึกว่าเสียงมีการสะท้อนมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น เป็นตัวกำหนดค่าความสะท้อน เปรียบเสมือนการกำหนดพื้นผิวของห้องที่เล่นอยู่ว่าสะท้อนมากน้อยแค่ไหน
- Decay/Time/Delay ปุ่มปรับค่าเวลาของเสียงสะท้อน ที่ต้องการให้เสียงสะท้อนค้างไว้นานแค่ไหน โดยจะสามารถปรับให้สั้นหรือยาวก็ได้ตามต้องการ
- Tone เป็นปุ่มเพิ่มหรือลดความถี่บางย่านที่อยู่ในเสียงสะท้อน อย่างเช่นเสียงต่ำที่เมื่อสะท้อนแล้วอาจจะล้น ทำให้เสียงหนาเกินไปก็สามารถปรับแต่งได้จากปุ่มนี้
บนเอฟเฟครีเวิปอาจจะปุ่มที่สามารถปรับชนิดของรีเวิปได้อีกด้วย ทำให้มีความสะดวกมากขึ้นในการปรับแต่งเอฟเฟคให้ได้เสียงตามที่ต้องการ ดังนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับรุ่นอีกเช่นกัน เพราะในแต่ละรุ่นของเอฟเฟคนั้นถูกออกแบบมาไม่เหมือนกัน
สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟครีเวิป
เอฟเฟครีเวิปจะสามารถพบได้ในแอมป์กีต้าร์ อาจจะมีติดมาให้ในตัวแอมป์เลยและสามารถปรับแต่งได้โดยมักจะเป็นปุ่ม Reverb ที่จะมากำหนดค่าความก้องเพียงเท่านั้นอาจจะไม่สามารถปรับแต่งอย่างอื่นได้ โดยเอฟเฟครีเวิปในแอมป์กีต้าร์จะเป็นรีเวิป ชนิดที่เรียกว่า Spring Reverb
4. วิธีปรับเอฟเฟค เสียงคอรัส (Chorus)
เป็นเสียงเอฟเฟคที่ทำให้เสียงกีต้าร์ของเรานั้นสั่น เหมือนมีลูกคอ โดยหลักการทำงานของเอฟเฟคคอรัสคือการนำความถี่ไปผสมกับเสียงกีต้าร์ ทำให้เกิดการสั่นของเสียง ทำให้เสียงของกีต้าร์ดูไม่แข็งและมีความนุ่มขึ้น โดยเราสามารถปรับแต่งความถี่ที่จะถูกนำมาผสมได้ ทำให้เสียงกีต้าร์ของเรามีการสั่นในรูปแบบต่าง ๆ
ปุ่มหลักบนเอฟเฟคเสียงคอรัส
- Level/ Fx Level/Mix ปุ่มที่ใช้ปรับระดับความดังเอฟเฟคคอรัสที่ต้องการผสมเข้าไปในเสียงหลัก ถ้าหมุนให้ดังมากก็จะทำให้ได้ยินเสียงคอรัสชัดและดังกว่าเสียงหลัก แต่ถ้าต้องการให้เสียงคอรัสเบา ก็สามารถปรับได้จากปุ่มนี้
- Rate ปุ่มที่กำหนดความถี่ที่ต้องการจะผสมเข้าไปในเสียงหลัก ยิ่ง Rate มากก็จะทำให้เสียงกีต้าร์นั้นสั่นถี่และเร็วขึ้นนั้นเอง
- Depth/Width ปุ่มทีกำหนดความกว้างของความถี่ ทำให้เสียงที่สั่นมีความกว้างหรือแคบขึ้นอยู่กับปุ่มนี้ ซึ่งจะทำให้เสียงคอรัสดูกว้างและใหญ่ขึ้น
- Tone/Filter ปุ่มที่ปรับแต่งความถี่ของเสียงคอรัส โดยอาจจะเพิ่มหรือลดบางย่านเสียงลง โดยในบางรุ่นอาจจะแยกออกเป็นย่านเสียงสูง-ต่ำไว้ให้แยกกัน
เสียงเอฟเฟคคอรัสถือเป็นอีกเสียงที่ถ้าปรับแต่งให้ได้ดีแล้ว จะสามารถสร้างเสียงกีต้าร์ใหม่ ๆ ออกมาได้เลยทีเดียว ทำให้เป็นอีกหนึ่งเสียงที่มือใหม่ควรจะต้องเรียนรู้และปรับให้คล่องแคล่ว
สิ่งที่มือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับเอฟเฟคคอรัส
คอรัสเป็นเอฟเฟคที่เรียกว่าขาดไม่ได้สำหรับโซโล่กีต้าร์ เรียกว่าแทบจะทุกโซโล่ของกีต้าร์ไฟฟ้ามักจะมีเอฟเฟคนี้ติดอยู่ อาจจะเบาบ้างดังบ้าง ก็อยากจะให้ทุกคนลองฝึกสังเกตเสียงคอรัสของกีต้าร์กันดู
สรุปวิธีปรับเสียงเอฟเฟคกีต้าร์
เอฟเฟคทุก ๆ รุ่น ไม่ว่าเสียงเอฟเฟอะไรก็ตามนั้นถูกออกแบบมาไม่ให้เหมือนกัน ทุกยี่ห้อจะพยายามทำให้มีคาแรคเตอร์เสียงของตัวเอง ดังนั้นวิธีการปรับเอฟเฟคกีต้าร์แต่ละรุ่นนั้นจะแตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าปุ่มจะให้ผลเดียวกัน แต่เสียงที่ออกมาจะมีคาแรคเตอร์ต่างกันชัดเจนจากการออกแบบ ดังนั้นผู้เล่นควรทำความคุ้นเคยกับเอฟเฟคกีต้าร์ของตัวเอง รู้จักอุปกรณ์ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะสามารถทำให้การปรับนั้นได้เสียงตามที่ใจต้องการ