เครื่องดนตรีและอุปกรณ์ต่างๆ นั้นก็เปรียบเสมือนอาวุธข้างกายของนักดนตรีทุกคนซึ่งต้องผ่านการเลือกสรรมาเป็นอย่างดี สำหรับมือกลองแล้ว ไม้กลอง ก็ถือเป็นหนึ่งในอาวุธหลักของพวกเขาที่ใช้ในการสร้างสรรค์จังหวะให้กับบทเพลงคู่ไปกับอุปกรณ์หลักอย่างกลองประเภทต่างๆ
มือกลองหน้าใหม่บางคนอาจเริ่มต้นด้วยการซื้อไม้กลองที่หน้าห้องซ้อมดนตรีราคาคู่ละไม่ถึง 100 บาท แต่เพื่อให้เราได้ใช้ศักยภาพและทักษะที่ฝึกซ้อมมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับเราที่สุดก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การฝึกซ้อม
แบรนด์ไม้กลอง ระดับโลก ยี่ห้อไหนดี
ปัจจุบันนี้มีไม้กลองมากมายหลากหลายแบรนด์ให้บรรดามือกลองเลือกใช้ตามแต่ความถนัดและแนวดนตรีของพวกเขา ไม้กลองแบรนด์มีชื่อมากมายถูกเลือกใช้โดยมือกลองระดับโลก วันนี้เราจะขอนำท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับแบรนด์ผู้ผลิตไม้กลอง รวมถึงไม้กลองบางรุ่นของแบรนด์นั้น เพื่อเป็นแนวสำหรับมือกลองหน้าใหม่ในการเลือกหาไม้กลองที่เหมาะกับตัวเอง
3 แบรนด์ที่ผลิตไม้กลอง โดยเฉพาะ
1. ไม้กลอง Vater
แบรนด์แรกที่เราจะขอพูดถึงก็คือ Vater ซึ่งผลิตโดยบริษัท Vater Percussion บริษัทผลิตไม้กลองและอุปกรณ์เสริมของเพอร์คัสชั่นชื่อดังจากสหรัฐฯ ไม้กลอง Vater มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีมือกลองระดับโลกมากมายเป็นพรีเซ็นเตอร์
American Hickory & American Maple
ไม้กลองของ Vater มีให้เลือกมากมายหลายประเภท โดยหลักๆ แล้วก็ตามไม้ที่ใช้ผลิต เช่น American Hickory และ รุ่นไม้ Maple หรือ Sugar Maple และมีการแบ่งเป็นรุ่นโมเดลต่างๆ ตามขนาดและการใช้งาน เช่น โมเดล Classic 8D Jazz, Los Angles 5A และ Jazz Ride
Eternal Black
นอกจากนี้ Vater ยังมีไม้กลองรุ่น Eternal Black ซึ่งเป็นไม้กลองเคลือบสีดำสวยงาม โดยมีให้เลือกใช้งาน 4 โมเดล คือ Eternal Black Los Angles 5A, Eternal Black 5B, Eternal Black Power 5B (ซึ่งมีขนาดยาวกว่า), และโมเดลซิกเนเจอร์ของ Mike Wengren มือกลองวง Disturbed
Extreme Design
รุ่นต่อมาคือ Extreme Design ซึ่งประกอบไปด้วยโมเดลขนาด 5A กับ 5B และโมเดล Extreme Design Rock ซึ่งแต่ละโมเดลจะมีขนาดส่วนด้ามจับ (Grip) ต่างกัน ไม้กลองรุ่นนี้จะมีคอไม้ (Taper) ที่หนักกว่าเพื่อความหนักแน่น มีความสมดุล น้ำหนัก และการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมด้วยหัวไม้กลองแบบ Barrel
Player’s Design
และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ไม้กลองที่เหมือนกับมือกลองไอดอลในดวงใจ Vater ก็มีไม้กลอง Player’s Design ซึ่งเป็นไม้ซิกเนอเจอร์ของมือกลองระดับโลกทั้งหลายที่เลือกใช้งานไม้กลอง Vater ไม่ว่าจะเป็น Chad Smith (Red Hot Chili Peppers), Derek Roddy, ไม้กลองโมเดล Mike Mangini Wicked Piston ของมือกลอง Dream Theater, และไม้กลองซิกเนอเจอร์ของ Virgil Donati
2. ไม้กลอง Vic Firth
อีกหนึ่งแบรนด์ไม้กลองสัญชาติอเมริกันก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1963 โดย Everett Joseph “Vic” Firth และมีการประกาศว่านี่คือบริษัทผู้ผลิตไม้กลองและไม้เพอร์คัสชั่นที่ใหญ่ที่สุดของโลก สำนักงานใหญ่ของ Vic Firth ตั้งอยู่ที่ Boston, Massachusetts ในปี 2010 บริษัท Vic Firth ได้ควบรวมกับบริษัท Avedis Zildjian แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องทองเหลืองและไม้กลองชื่อดังอย่าง Zildjian
American Classic
ไม้กลองของ Vic Firth มีการแบ่งเป็นรุ่นต่างๆ เช่นกัน โดยรุ่นแรกที่เราจะพูดถึงก็คือ American Classic ซึ่งเป็นไม้กลองสไตล์ดั้งเดิมของ Vic Firth ผลิตจากไม้ Hickory ซึ่งเป็นไม้เนื้อแน่น มีความโค้งงอเล็กน้อยเพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจน อีกทั้ง Hickory ยังเป็นไม้ที่มีความทนทานอีกด้วย ด้านหลังของส่วนหัวไม้รุ่นนี้ถูกตัดให้ลึกเข้าไปเพื่อเพิ่มการตอบสนองของเครื่องทองเหลือง
ไม้กลองรุ่น American Classic มีการผลิตออกมาหลากหลายโมเดลตามขนาดของไม้ และลักษณะเฉพาะต่างๆ ของไม้ เช่น โมเดล Extreme 5B Puregrit ที่มีเนื้อไม้หยาบเป็นธรรมชาติ และ โมเดล Rock Nylon ซึ่งเป็นไม้กลองที่มีหัวไม้เป็นไนลอน
American Jazz
รุ่นต่อมาคือ American Jazz แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าไม้กลองโมเดลต่างๆ ในรุ่นนี้เหมาะกับเพลงแนว Jazz ไม้กลองรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้มือกลองที่ชื่นชอบการเด้งสะท้อนของไม้บนหนังกลองและเครื่องทองเหลือง ไม้กลองรุ่นนี้มีให้เลือกใช้งาน 6 โมเดล มีช่วง Taper ที่ยาวและช่วงคอมีขนาดใหญ่ พร้อมหัวไม้แบบ Teardrop
ไม้กลอง American Jazz ทั้ง 6 โมเดลมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไม่มาก เช่น โมเดล Jazz 4 จะเป็นไม้กลองที่ผอมแต่ให้เสียงเครื่องทองเหลืองที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่โมเดล Jazz 5 คือไม้กลองที่มีรูปทรงผอมที่สุด สร้างโดยยึดความสมดุลของไม้ ทำให้มันมีน้ำหนักเบาและง่ายต่อการเล่น
Modern Jazz Collection
ไม้กลอง Vic Firth สำหรับนักดนตรี Jazz อีกรุ่นก็คือ Modern Jazz Collection ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทผู้ผลิตกับบรรดาสุดยอดมือกลอง Jazz สมัยใหม่อย่าง Jeff Ballard, Greg Hutchinson, Joe McCarthy และ Lewis Nash โดยมีให้เลือกสรรถึง 5 โมเดล
Signature Series
ไม้กลองรุ่น Signature ของมือกลองระดับโลกมากมายก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือกลองหน้าใหม่ Vic Firth ถือเป็นแบรนด์ไม้กลองชื่อดังที่ศิลปินหลายคนเลือกใช้และร่วมผลิตไม้กลองรุ่นพิเศษเฉพาะตัวกับแบรนด์นี้ ไม่ว่าจะเป็น Steve Gadd, Steve Smith, และ Thomas Lang รวมไปถึง Vinnie Paul มือกลองผู้ล่วงลับแห่งวง Pantera หรือไม้กลองซิกเนเจอร์ของมือกลองระดับตำนานของวง the Who อย่าง Keith Moon
3. ไม้กลอง Promark
บริษัทผลิตไม้กลอง Promark ก่อตั้งในปีค.ศ. 1957 โดยอาจารย์สอนและเจ้าของร้านเพอร์คัสชั่น Herb Brochstein ใน Houston, Texas และรวมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทผลิตสายเครื่องดนตรี D’Addario ตั้งแต่ปีค.ศ. 2011 Promark คือบริษัทแรกที่ทำให้ตลาดอเมริการู้จักไม้โอ๊คขาว Shira-Kashi และเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ทำตลาดไม้กลองที่ทำจากไม้โอ๊คได้สำเร็จในสหรัฐฯ
ในปี 1985 Promark จดสิทธิบัตร Rute หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ไม้กลองก้านธูป สำหรับใช้งานกับกลองชุดโดยเรียกมันว่า Hot Rod ซึ่งทางบริษัท Promark และบริษัทอื่นๆ ก็มีการผลิตไม้กลองชนิดนี้ตามออกมาอีกมากมายในภายหลัง
Firegrain
ไม้กลองรุ่นพิเศษรุ่นหนึ่งของ Promark คือ Firegrain ซึ่งเป็นกระบวนการทำความร้อนโดยใช้กับไม้ Hickory เพื่อผลิตไม้กลองที่มีคุณภาพสูงและทนทาน พร้อมด้วยลวดลายไม้สวยงาม โดยไม้กลอง Firegrain มีให้เลือกหลายโมเดลตามขนาดเช่น Classic 5A ซึ่งเหมาะกับดนตรีแนว Rock และ Pop หรือ โมเดล Classic 2B ซึ่งเหมาะสำหรับดนตรีแนว Rock, Metal และ Alternative
Shira-Kashi
ไม้กลอง Promark รุ่นที่ผลิตจากไม้โอ๊ค Shira-Kashi ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ โดยผลิตจากไม้โอ๊คเนื้อแน่น ไม้กลอง Shira-Kashi มีหลายโมเดล เช่น 5B Nylon Tip ซึ่งมีเป็นไม้ขนาด 5B ที่มีหัวเป็นไนล่อน และโมเดล Rebound 5A มีการเสริมสำเนียง น้ำหนัก และความทนทานของไม้
Painted
ไม้กลอง Painted คือรุ่นไม้กลองหลากสีของ Promark โดยแบ่งเป็นโมเดลตามขนาดต่างๆ และในแต่ละโมเดลก็มีสีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีกากี สีเทาเข้ม หรือสีส้ม
Artist Series
ปิดท้ายไม้กลองแบรนด์ Promark ด้วยรุ่น Artist Series ซึ่งเป็นไม้กลองซิกเนเจอร์ของมือกลองระกับโลกที่ให้ความไว้วางใจและเลือกที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์นี้ ไม่ว่าจะเป็น Mike Portnoy อดีตมือกลองของวง Progressive Rock ชื่อดัง Dream Theater, Dave Lombado อดีตมือกลองวง Slayer, หรือ Joey Jordison ที่ไม้กลองซิกเนเจอร์ของเขาคือไม้กลอง Shira-Kashi ชื่อดังของ Promark
2 แบรนด์เครื่องดนตรีดังที่ผลิตไม้กลอง
1. ไม้กลอง Tama
มือกลองหลายๆ คนและนักดนตรีทั่วไปคงจะเคยเห็นหรือได้ยินชื่อกลองชุดแบรนด์ Tama กันมาบ้าง Tama คือบริษัทผลิตกลองชุดและอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Tama ก็คือ ไม้กลอง
Original Series Oak กับ Original Series Hickory
ไม้กลองของ Tama จะถูกแบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ โดยในแต่ละรุ่นจะมีการแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยตามไม้ที่ใช้ผลิตซึ่งก็คือไม้โอ๊คและไม้ Hickory เช่น Original Series Oak กับ Original Series Hickory ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีโมเดลต่างๆ ให้เลือกใช้ตามขนาดและน้ำหนักไม้ที่เราถนัด
Canvas Series
ในส่วนของไม้กลองหลากสีสัน Tama ก็มีไม้กลองรุ่น Canvas Series ซึ่งเป็นไม้กลองสีต่างๆ มีให้เลือก 3 สี คือเขียว ฟ้า และขาว โดยไม้กลองรุ่นนี้ทุกสีผลิตจากไม้โอ๊คญี่ปุ่น มีขนาดเท่ากับไม้ 5A และหัวไม้จะเป็นทรง Teardrop นอกจากนี้ Tama ยังมีไม้กลองสีแดงเพลิงรุ่น RedZone ซึ่งแบ่งออกเป็นไม้โอ๊คและไม้ Hickory อีกด้วย
Signature Model
และแน่นอนว่า Tama ก็มีไม้กลองรุ่นซิกเนเจอร์ของศิลปินดัง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ป๋าโย Yoshiki แห่งวง J-Rock ระดับตำนาน X-Japan โดยไม้กลองของ Yoshiki มี 2 โมเดล คือ สีเทาและสีดำ ผลิตจากไม้ American Hickory ยาว 398 มม. ว่าแต่ เมื่อไหร่วงนี้จะมีเพลงใหม่ออกมาสักทีหละ…
มือกลองอีกคนหนึ่งที่มีไม้กลองซิกเนอจร์แบรนด์ Tama ก็คือ Jeremy Colson ซึ่งเป็นมือกลองให้กับ Steve Vai ไม้กลองของเขาผลิตจากไม้ Hickory โดยมีความพิเศษคือ ลักษณะของไม้สำหรับมือซ้ายและมือขวาจะต่างกัน โดยที่หัวของไม้สำหรับมือขวาจะเป็นแบบ Acorn ส่วนมือขวาจะเป็นแบบ Knocker ซึ่งเป็นลักษณะไม้ที่ไม่มี Taper และหัวไม้ เพื่อให้ได้เสียงกลองหรือสแนร์ที่หนักแน่น
2. ไม้กลอง Zildjian
บริษัท Avedis Zildjian หรือที่รู้จักกันในชื่อ Zildjian คือบริษัทผลิตเครื่องดนตรีสัญชาติอาร์เมเนียน-อเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในประเทศตุรกีโดย Avedis Zildjian ในปี 1623 ปัจจุบันบริษัทตั้งอยู่ใน Norwell, Massachusetts นี่คือผู้ผลิตเครื่องทองเหลืองต่างๆ รายใหญ่ที่สุดของโลกทั้งสำหรับกลองชุดและวงโยธวาทิต ในขณะที่ ไม้กลอง ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าหลักของบริษัทนี้เช่นกัน
DIP Series
ไม้กลองรุ่นเฉพาะรุ่นหนึ่งของ Zildjian ก็คือ DIP Series ไม้กลองรุ่นนี้มีการเคลือบ DIP ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษไว้ที่บริเวณด้ามจับ (Grip) เพื่อให้เกิดความสบายมือ ผ่อนคลาย และมือกลองไม่จำเป็นต้องจับไม้แน่นมากเพราะสิ่งนี้จะทำให้ผิวไม้กลองเหนียวขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้ไม้ลื่นหลุดมือ ไม้กลอง DIP Series มีให้เลือกหลายขนาดตามมาตรฐานไม้กลอง เช่น 7A, 5A หรือ 5B โดยทั้งหมดทำจากไม้ Hickory
Anti-Vibe
รุ่นต่อมาคือ ไม้กลอง Anti-Vibe ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไม้กลองรุ่นพิเศษเฉพาะของ Zildjian ด้วยเทคนิคการผลิตเฉพาะตัวเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อไม้กระทบกับหนังกลองเพื่อความสบายและง่ายต่อการควบคุม ไม้กลองรุ่นนี้มีโมเดลพิเศษ คือ Anti-Vibe Trigger Drumsticks ที่มีขนาดเล็ก ช่วงคอ (Taper) สั้นซึ่งเหมาะสำหรับการเล่นกลองไฟฟ้า
Gauge Series
Zildjian Gauge Series คือ รุ่นไม้กลองที่มีให้เลือก 4 โมเดล ในแต่ละโมเดลมีขนาดที่แตกต่างกันตามสัดส่วน โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้กับดนตรีทุกแนว เช่น 6 Gauge กับ 8 Gauge ถูกออกแบบมาให้มีการควบคุมและเสียงที่ยอดเยี่ยม แต่ยังสามารถสร้างเสียงที่หนักแน่นได้ ในขณะที่ 12 Gauge คือ โมเดลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไม้กลองรุ่นนี้
Artist Series
ไม้กลอง Artist Series คือ รุ่นไม้กลองซิกเนเจอร์ของมือกลองชื่อดังหลายคนที่เลือกใช้งานไม้กลองของ Zildjian หนึ่งในมือกลองชื่อดังที่มีไม้กลองซิกเนเจอร์กับ Zildjian คือ Travis Barker แห่งวง Blink-182 ซึ่งไม้กลองซิกเนเจอร์ของเขามีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ ขาว และเหลือง ผลิตจากไม้ Hickory
2 แบรนด์ไม้กลองไทย ยอดนิยมของคนไทย
แบรนด์ไม้กลองที่ขึ้นชื่อของไทยซึ่งบรรดามือกลองทั้งหลายน่าจะรู้จักหรือคุ้นหูอยู่บ้าง ได้แก่ CMC และ Butcher ซึ่งสำหรับแบรนด์ไทยทั้ง 2 นี้ เรียกว่ามีระดับและคุณภาพเทียบเท่าสากลเลยทีเดียว ถือว่าเป็นความโชคดีของคนไทยที่มีแบรนด์กลองคุณภาพดีจากฝีมือคนไทยเอง
1. ไม้กลอง CMC
แบรนด์แรกคือบริษัทผลิตกลองชุดและเพอร์คัสชั่นของไทยที่มีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีและมีมือกลองมากมายในประเทศเลือกใช้ ไม้กลองของ CMC มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับไม้กลองแบรนด์ต่างประเทศ แต่ราคาย่อมเยากว่า โดยมีให้เลือกหลายขนาดแบ่งตามมาตรฐาน เช่น 7A, 5A หรือ 5B ทั้งหมดผลิตจากไม้ Hickory
สนใจติดต่อสั่งซื้อ CMC ได้ที่นี้ https://www.facebook.com/playcmcmusic/
2. ไม้กลอง Butcher
ในขณะที่ Butcher คือแบรนด์ไม้กลองที่ก่อตั้งโดย วิทวัส ภักดิ์แจ่มใส หรือ หมู มือกลองของวง Sweet Mullet แม้จะดูเหมือนว่าเพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน แต่ไม้กลองแบรนด์นี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 2553 โดยในปัจจุบัน ไม้กลอง Butcher ก็เป็นตัวเลือกของมือกลองแถวหน้าในประเทสไทยหลายคนเช่น อ๊อตโต้ (Lomosonic) หรือ บูม (The Yers)
สนใจติดต่อสั่งซื้อ Butcher ได้ที่นี้ https://www.facebook.com/butcherdrums/
นอกจากแบรนด์ไม้กลองต่างๆแล้ว ใครกำลังหามากลองมาดูวิธีเลือกกันได้เลยกด
4 เทคนิคการเลือกไม้กลอง ที่ต้องรู้ก่อนซื้อ!