สายกีต้าร์ แบบต่างๆ

สายกีต้าร์ 3 ชนิด เลือกใช้อย่างไร มือใหม่ควรทำความเข้าใจก่อนซื้อ

สำหรับคนที่เริ่มเล่นกีต้าร์ใหม่ๆ เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนสายกีต้าร์อาจจะงงว่า ต้องใช้สายแบบไหน รุ่นไหน กันแน่เพื่อให้เหมาะกับกีต้าร์ของเรา เพราะว่านอกจากกีต้าร์ที่ดีแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างนึงที่มีผลมากกับเสียงที่ออกไปและมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ สายกีต้าร์ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของเสียงอีกอย่างนึงเลยทีเดียว สามารถทำให้กีต้าร์ที่มีคุณภาพเสียงที่ดีกลายเป็นกีต้าร์ที่เสียงแย่ลงได้ และในทางกลับกันก็สามารถทำให้กีต้าร์ที่คุณภาพเสียงอาจจะไม่ดีนักทำให้เสียงดีขึ้นได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างนึงของเสียงกีต้าร์เลย ดังนั้นการใช้สายกีต้าร์ที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น และก่อนที่จะไปทำความรู้จักสายกีต้าร์ยี่ห้อต่างๆนั้น เราจะมาความรู้จักกับ สายกีต้าร์ กันก่อน

สายกีต้าร์ มี 3 ชนิด สำหรับกีต้าร์โปร่ง 2 แบบ และกีต้าร์ไฟฟ้า

สายกีต้าร์ ที่จะมานำใส่กับกีต้าร์โปร่งนั้น ขึ้นอยู่กับกีต้าร์ที่จะนำไปใส่ นั้นก็คือกีต้าร์คลาสสิคซึ่งจะใช้สายไนล่อน และ กีต้าร์โปร่งที่ใช้สายโลหะนั้นเอง กีต้าร์ทั้ง 2 ชนิดนั้นให้เสียงที่แตกต่างกันจากชนิดของสาย โดยกีต้าร์คลาสสิคที่ใส่สายไนล่อนจะให้เสียงที่นุ่มนวลกว่าสายเหล็ก ทำให้เหมาะสำหรับนำมาใช้บรรเลงเพลงกีต้าร์คลาสสิคต่างๆ มากกว่านำมาตีคอร์ด แต่ถือเป็นต้นแบบของกีต้าร์ในยุคปัจจุบัน ส่วนกีต้าร์โปร่งที่นิยมนำมาใช้ตีคอร์ดร้องเพลงในปัจจุบันนั้นจะเป็นกีต้าร์ที่ใช้สร้างเหล็กหรือโลหะชนิดต่างๆ มีหลายขนาด หลายรูปแบบ ซึ่งก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ความชอบของผู้เล่นที่จะเลือกใช้ และที่ขาดไม่ได้ก็คือสายกีต้าร์ไฟฟ้าที่ทำจากโลหะเช่นกัน แต่ก็จะมีความแตกต่างกันไป ทั้งชนิดของสายและเสียงที่ได้ ซึ่งก็จะมาแนะนำกันในวันนี้

สายกีต้าร์แบบไนล่อน ใช้สำหรับกีต้าร์คลาสสิค

สายกีต้าร์ไนล่อน (สายกีต้าร์คลาสสิค) นั้นจะให้เสียงแบบกลมมน ไม่พุ่งมาก มีเสียงที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถูกออกแบบใช้ในกีต้าร์คลาสสิคเพียงอย่างเดียว โดยวิธีการใส่นั้นจะใช้วิธีการผูกกับตัวสะพายสายของกีต้าร์คลาสสิคแล้วขึงลงบนกีต้าร์ โดยวัสดุที่นำทำนั้น 3 สายบนและ 3 สายล่างจะวัสดุไม่เหมือนกัน โดย 3 สายล่างนั้นจะใช้ไนล่อนเพียงอย่างเดียวให้สัมผัสที่นิ่มและเสียงที่นุ่มนวลอีกด้วย ส่วน3สายบนนั้นจะเป็นสายที่แกนกลางจะเป็นไนล่อนและมีการม้วนเคลือบด้วยโลหะต่างๆไม่ว่าจะเป็นทองเหลือง ทองแดง ซึ่งก็จะให้เสียงที่ต่างกันออกไปแล้วแต่วัสดุที่นำมาใช้งาน

สายกีต้าร์แบบโลหะชนิดต่างๆ ใช้สำหรับกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้า

สายกีต้าร์แบบโลหะ (สายกีต้าร์โปร่งและสายกีต้าร์ไฟฟ้า) นั้นจะขอเรียกง่ายๆ ว่า สายกีต้าร์แบบเหล็ก นั้นจะให้เสียงที่สว่าง ใส มากกว่า สายกีต้าร์โปร่งแบบไนล่อน เพราะทำจากวัสดุโลหะนั้นเอง มีให้เลือกใช้หลากหลายชนิดตามชนิดของโลหะ ทั้ง สแตนเลส ทองเหลือง ทองแดง เงิน ทำให้มีเอกลักษณ์ของเสียงหลายรูปแบบตามชนิดของโลหะที่นำมาใช้ โดย3สายบนและล่างก็ต่างกันเล็กน้อยคล้ายๆกับของกีต้าร์คลาสสิค โดย3สายล่างจะเป็นโลหะเปลือยและ 3 สายบนจะมีการม้วนเคลือบโลหะเหมือนกันแต่แกนกลางของสายก็จะเป็นโลหะแทนไนล่อนนั้นเอง

หลักการและวิธีเลือกสายกีต้าร์ ยังไงให้เหมาะสมกับการใช้งาน

สำหรับผู้เริ่มต้นมือใหม่อยากจะให้มองข้ามเรื่องของวัสดุไปก่อนเพราะอาจจะทำให้สับสนและงงกว่าเดิมได้ โดยสิ่งจำเป็นที่ควรรู้หลักๆ จะมีเพียงอยู่ 2-3 อย่างเท่านั้น นั้นก็คือ

1. เราใช้กีต้าร์อะไรอยู่ กีต้าร์ไฟฟ้า กีตาร์โปร่งที่ใช้สายเหล็กหรือกีต้าร์คลาสสิคที่ใช้สายไนล่อน เพราะจากประสบการณ์การสอนของผู้เขียน เคยมีทั้งนักเรียนที่นำกีต้าร์คลาสสิคไปใส่สายเหล็กและกีต้าร์โปร่งที่ไปใส่สายไนล่อน หรือนำสายกีต้าร์โปร่งไปใส่บนกีต้าร์ไฟฟ้า ผู้เล่นมือใหม่จำเป็นต้องรู้ว่ากีต้าร์ของเราเป็นกีต้าร์อะไร ใช้สายแบบไหน
2. หลังจากรู้ว่ากีต้าร์ใช้สายแบบไหนแล้ว ให้เลือกขนาดของสายเพราะสำหรับผู้เล่นมือใหม่นั้นการเลือกใช้สายเบอร์ใหญ่ๆ จะทำให้เจ็บนิ้ว ทรมานแสนสาหัสกับการกดนิ้วลงบนสายอย่างแน่นอน จึงแนะนำว่าควรเลือกใช้สายเบอร์เล็กๆเพื่อให้นิ้วของเราปรับตัวกับการเล่นกีต้าร์ก่อนที่จะใช้สายเบอร์ใหญ่ๆ โดยข้อดีของการใช้สายเบอร์เล็กนั้นก็จะทำให้ผู้เล่นมือใหม่เล่นได้ง่ายขึ้นเจ็บนิ้วน้อยลง ทำให้เล่นได้นานยิ่งขึ้นและง่ายขึ้นต่อการจับคอร์ดต่างๆ เพราะจะใช้แรงน้อยกว่าในการกดสาย แต่ก็จะมีข้อเสียที่จะทำให้กีต้าร์ของเราเสียงบางลงไปบ้าง แต่ถ้านิ้วของเราเริ่มคุ้นชินแล้ว มีกำลังนิ้วที่มากขึ้นก็ควรจะขยับไปใช้สายเบอร์ใหญ่ขึ้นเพื่อให้เสียงได้ที่เต็มขึ้น อิ่มขึ้นนั้นเอง

3. สุดท้ายเมื่อเรารู้จักกับสายกีต้าร์มากขึ้นแล้ว ส่วนสำคัญก็คือสายที่จะให้โทนเสียงต่างกันไปโดยสามารถเลือกได้จากโทนเสียงซึ่งมากจากวัสดุต่างๆ โดยเราอาจจะไม่จำเป็นต้องรู้จักกับวัสดุที่นำมาทำก็ได้ เพียงเลือกจากโทนเสียงทีแบรนด์ต่างๆ จะระบุไว้ข้างหลังของซองว่ารุ่นที่เราดูนั้นให้โทนเสียงแบบไหนสว่าง (Bright) หรือนุ่ม (Mellow) ซึ่งขึ้นกับความชอบของผู้เล่นที่จะต้องทดลองด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ ว่ามีความต้องการเสียงแบบไหน และสายแบบไหนเหมาะกับกีต้าร์ของเรา

 

สายกีต้าร์คลาสสิค แบบไนล่อนที่เป็นที่นิยม


 

1. D’Addario

เป็นอีกยี่ห้อที่เป็นที่นิยมในเมืองไทย สายแบบไนล่อนของ D’Addario ให้เสียงเป็นเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยมีให้เลือกหลากหลาย มากกว่า10 รุ่นเลย ให้ได้ทดลองใช้กัน โดยถ้าเริ่มต้นอยากให้เริ่มใช้รุ่นที่ให้เสียงกลางๆ ก่อน อย่างเช่น Pro-Arté Nylon Core หรือรุ่น Student Classic ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ให้เสียงกลางๆก่อน โดยสายของ D’Addario จะมีรุ่นที่มีการเคลือบเพื่อให้สายมีความคงทนมากขึ้นอีกด้วย

 

 

2. Ernie Ball

เป็นยี่ห้อยอดนิยมอีกเช่นกัน โดยทางErnie Ball จะมีความโดดเด่นในเรื่องของสายกีต้าร์โปร่งแบบเหล็ก กับสายกีต้าร์ไฟฟ้ามากกว่า แต่ทางแบรนด์ก็มีการผลิตสายกีต้าร์แบบไนล่อนออกมาด้วย ถึงแม้ว่าจะมีรุ่นให้เลือกไม่มากนักแต่คุณภาพเสียงก็ใช้ได้ทีเดียว

 

 

3. Savarez

เป็นยี่ห้อสายกีต้าร์ไนล่อน ที่เรียกว่าเฉพาะทางเลยทีเดียว เพราะผลิตแต่สายกีต้าร์โปร่ง แบบไนล่อนเท่านั้น เป็นแบรนด์ที่คนเล่นกีต้าร์คลาสสิคจะรู้จักกันดีถึงคุณภาพเสียงที่ได้จาก Savarez เพราะเป็นแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี นอกจากนั้นยังมีให้เลือกหลายรุ่นอีกด้วย ราคาอาจจะสูงไปบ้างสำหรับมือใหม่แต่เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า

 

 

4. Augustine

เป็นสายอีกยี่ห้อที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าเป็นคนเล่นกีต้าร์คลาสสิคแล้ว ถือเป็นสายกีต้าร์โปร่ง แบบไนล่อนที่ดีอีกยี่ห้อนึง ได้รับความนิยมจากมือกีต้าร์คลาสสิค ได้รับความนิยมในวงกว้างอีกด้วย โดยทางแบรนด์ก็มีหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้กันโดยราคาอาจจะสูงไปบ้าง แต่คุณภาพเสียงก็ดีขึ้นตามไปด้วย

 

 

5.Olympia

สายกีต้าร์ที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นแต่จริงๆ แล้วทางแบรนด์เป็นโรงงานสายที่รับผลิตให้กับแบรนด์ดังๆ หลายยี่ห้อเลยทีเดียว โดยจุดเด่นของ Olympia นั้นราคาไม่สูงแต่คุณภาพและมาตรฐานนั้นดีเลยทีเดียว ทำให้เป็นสายอีกหนึ่งยี่ห้อที่หน้าสนใจมาก ๆ

 

สายกีต้าร์โปร่ง แบบโลหะที่เป็นที่นิยม


 

 

1. Ernie Ball

เป็นสายกีต้าร์โปร่งที่ได้รับความนิยมในระดับโลก นักดนตรีให้การยอมรับ มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ โดยจะแตกต่างกันที่วัสดุทำให้ได้เสียงที่ออกมาแตกต่างกัน มีทั้ง ทองแดง ทองเหลือง หรือโลหะผสมต่างๆ นอกจากนั้นยังขนาดของสายให้เลือกเยอะอีกด้วย ทำให้สามารถหาขนาดสายที่เล็กเหมาะสำหรับมือใหม่ได้ไม่ยาก ราคาไม่สูง

 

 

2. D’Addario

ก็เป็นอีกยี่ห้อนึงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน โดยจะลักษณะของเสียงแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อ โดยของทาง D’Addario นั้นก็มีรุ่นให้เลือกเยอะไม่แพ้กัน โดยความแตกต่างก็จะต่างกันที่วัสดุโลหะที่นำมาใช้ทำสายกีต้าร์ และการเคลือบสายที่จะเพิ่มความคงทนให้กับสายอีกด้วย ราคาไม่สูงขึ้นแต่ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้ด้วย

 

 

3. Elixir

เป็นสายกีต้าร์โปร่งที่มาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการเคลือบสารเคมีที่เพิ่มความคงทนให้เก็บสาย ทำให้สายนั้นเป็นสนิมได้ยากและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นโดยที่ยังให้คุณภาพเสียงที่ยังดีอยู่ โดยจะมีวัสดุหลักคือ ทองเหลือง โดยทางแบรนด์จะเน้นการเคลือบสารเคมีโดยมีสองแบบนั้นก็คือ แบบ Nanoweb และ Polyweb ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกันเล็กน้อย ส่วนขนาดของสายนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายครบครันเลยทีเดียว ในส่วนของราคานั้นก็จะสูงตามขึ้นมาเพราะสายนั้นมีความทนทานมากขึ้น

 

 

4. Martin & Co.

นอกจากเป็นผู้ผลิตกีต้าร์โปร่งที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว สายกีต้าร์โปร่งจากทางแบรนด์ก็มีคุณภาพดีไม่แพ้กีต้าร์เลยทีเดียว โดยมีสายให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ครบทุกขนาดสาย รวมไปถึงสายที่ผลิตขึ้นมาให้ศิลปินโดยเฉพาะอีกด้วย ถือว่าเป็นสายที่มีคุณภาพสูงเลยทีเดียว โดยราคาก็ขยับตามขึ้นไปด้วยแต่ด้วยคุณภาพแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไว้วางใจได้เลย

 

 

5.Olympia

สายกีต้าร์โปร่งจากเกาหลีที่มีให้เลือกหลายรุ่นตั้งแต่สายแบบธรรมดาไปจนถึงสายเคลือบ และที่สำคัญคือราคาไม่แพงอย่างที่คิด นอกจากนั้นคุณภาพเสียงก็ยังดีอีกด้วย แบรนด์นี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่าไหร่แต่รับรองว่าสายดีเลยทีเดียว เพราะทางแบรนด์เป็นโรงงานสายขนาดใหญ่ที่รับผลิตให้แบรนด์ดังมากมาย

ผ่านไปแล้วกับสายกีต้าร์โปร่ง ทั้งแบบโลหะและแบบไนล่อน แต่คราวหน้ารับรองว่าจะมาทำการเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของสายแต่ละชนิดอีกครั้งนึงอย่างแน่นอน เพราะว่ายังคงมีรายละเอียดต่างๆ ที่ควรรู้ แต่ในคราวนี้เป็นการแนะนำเบื้องต้นเพื่อให้ผู้เล่นมือใหม่เลือกใช้สายให้ถูกต้องกับกีต้าร์โปร่งของตัวเองและรู้จักกับการเลือกซื้อแบบง่ายๆ ในเบื้องต้นกันก่อน

สายกีต้าร์ไฟฟ้า ที่เป็นที่นิยม


 

 

1. Ernie Ball

เรียกได้ว่าไม่ว่าจะสายกีต้าร์ชนิดไหนแบรนด์นี้ก็ได้รับความนิยมไปทั้งหมดเพราะคุณภาพสายและเสียงที่ได้คุณภาพ ในส่วนของกีต้าร์ไฟฟ้าก็มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้  เรียกว่าหลากหลายที่สุดในสายกีต้าร์ทุกชนิดเพราะ ทางแบรนด์ Ernie Ball โดดเด่นและผลิตสายกีต้าร์ไฟฟ้าเป็นหลักอยู่แล้ว ทำให้ไลน์ของสายกีต้าร์ไฟฟ้านั้นมีให้เลือกหลากหลายมากๆ นอกจากนั้นยังมีมือกีต้าร์ระดับโลกมากมายเลือกใช้อีกด้วย ถ้าชื่นชอบมือกีต้าร์หรือศิลปินคนไหนก็แนะนำให้เลือกหรือลองใช้ตามดูก่อนก็ยังได้ แต่ข้อเสียของแบรนด์นี้อาจจะไม่คงทนมากนัก ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ

 

2. D’Addario

ตามมาติดๆกับแบรนด์นี่เพราะถือว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรง โดยในส่วนของไลน์กีต้าร์ไฟฟ้าทาง D’Addario ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน โดยทางแบรนด์ได้ออกรุ่นที่มีการเคลือบสายทำให้มีความทนทานมากขึ้น ทำให้ใช้ได้นานขึ้น ส่วนเสียงที่ได้นั้นก็เรียกว่าได้มาตรฐาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกว่าถ้าใครชื่นชอบก็สามารถเลือกใช้ยี่ห้อนี้ได้ ไม่ต้องกังวลถึงคุณภาพ สบายใจได้อย่างแน่นอน

 

 

3.Fender

เป็บแบรนด์ที่ผลิตกีต้าร์ไฟฟ้าที่ทุกคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน โดยทางแบรนด์นั้นได้มีสายกีต้าร์เป็นของตัวเองด้วย ซึ่งจริงๆแล้ว ก็มีสายกีต้าร์ทั้ง3 ชนิด แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักใน กีต้าร์คลาสสิคและกีต้าร์โปร่ง แต่ในส่วนของสายกีต้าร์ไฟฟ้านั้น ได้รับความนิยมดีเพราะว่าด้วยคุณภาพและเสียงที่มีเอกลักษณ์ โดยก็มีรุ่นให้เลือกอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะทั้งขนาดหรือชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ ถือว่าเป็นอีกยี่ห้อที่ดีและน่าสนใจ ควรค่าแก่การหยิบมาลองใช้เพื่อทดสอบและดูว่าชอบมั้ย

 

 

4.Gibson

เป็นแบรนด์กีต้าร์ไฟฟ้าที่ทุกคนต้องรู้จักอีกแบรนด์นึง โดยทางแบรนด์ก็ผลิตสายกีต้าร์อีกเช่นกันและสายกีต้าร์ไฟฟ้าก็ได้รับความนิยมด้วย โดยสายของทาง Gibson ค่อนข้างนิ่มเหมาะสำหรับมือใหม่ให้ได้ทดลองใช้กัน มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ทั้งขนาดและวัสดุ ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจไม่น้อยที่จะได้ทดลองใช้

 

 

5.Olympia

เป็นสายจากเกาหลีที่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่จริงๆแล้วทางแบรนด์ Olympia นั้นเป็นโรงงานสายที่ผลิตแบบ OEM ให้สายกีต้าร์แบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์อย่าง Fender, Gibson เป็นต้น ซึ่งทางแบรนด์ได้จัดทำและจำหน่ายในแบรนด์ของตัวเองด้วยเพราะฉะนั้นก็รับรองได้เลยว่าคุณภาพสายนั้นได้มาตรฐานแน่นอน นอกจากนั้นยังราคาไม่สูงอีกด้วย รีวิวสายกีต้าร์ Olympia ฉบับเต็มคลิกเลย

 

สรุปต้องเลือก สายกีต้าร์ ให้ถูกชนิดกับกีต้าร์

สรุปกันซักหน่อยกับ สายกีต้าร์ สำหรับมือใหม่แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเลือกสายกีต้าร์ให้ถูกต้องกับกีต้าร์ที่ใช้อยู่ และที่สำคัญคือถ้าใครยังไม่สามารถเล่นสายเบอร์ใหญ่ได้ ควรจะลดขนาดของสายลงมาก่อนเพื่อที่จะทำให้เล่นได้ง่ายขึ้นแล้วจึงค่อยปรับเบอร์สายให้ใหญ่ขึ้นตามกำลังของนิ้วต่อไป สิ่งที่มือใหม่ยังไม่ควรต้องกังวลมากนั้นคือวัสดุที่นำมาผลิตสายนั้นๆ ให้เลือกสายที่เป็นมาตรฐาน ราคาไม่สูงจนไปเกินไปก็ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการแล้ว และก็แนะนำว่าควรทดลองสายหลายๆยี่ห้อ หลายๆแบรนด์ เพื่อจะได้รู้ถึงความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อเพราะจะได้รู้ด้วยว่าเราชอบแบรนด์ไหน สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนเลือกสายกันอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเอง