สำหรับนักดนตรีไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก๋า ไม่ว่าเครื่องดนตรีไหนการตั้งสายให้เที่ยงตรงนั้นเป็นสิ่งสำคัญและต้องหมั่นทำให้เป็นนิสัยก่อนเล่นอย่างสม่ำเสมอ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำทุกครั้งก่อนไม่ว่าจะเริ่มซ้อมหรือเริ่มเล่น เพราะเมื่อถึงเวลาโชว์จริงแล้ว หากสายผิดเพี้ยนขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ๆ และสิ่งสำคัญเวลาตั้งสายเครื่องดนตรีของเราทุกครั้งนั้นก็คือ เครื่องตั้งสายกีต้าร์
เครื่องตั้งสายกีต้าร์ ใช้กับเครื่องดนตรีประเภทไหนบ้าง?
สำหรับเครื่องตั้งสายนั้นก็มีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลายพัน ซึ่งสามารถใช้ตั้งสายกับเครื่องดนตรีได้หลากหลายชนิด โดยส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องสายที่ต้องมีการตั้งสายบ่อย ๆ อย่างเช่น กีต้าร์ ไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์โปร่ง กีต้าร์คลาสสิค กีต้าร์ไฟฟ้า เบส หรือแม้กระทั่งเครื่องดนตรีคลาสสิคอย่าง ไวโอลิน วิโอล่า เชลโล่
เครื่องสายเหล่านี้มักจะต้องมีการตั้งสายอยู่บ่อย ๆ เพราะว่าอุณภูมิของห้อง รวมไปถึงการเล่นของนักดนตรีมีผลต่อความตึงของสาย ทำให้ต้องมีการตั้งสายอยู่เรื่อย ๆ ขณะเล่น เพราะฉะนั้น เครื่องตั้งสายจึงจำเป็นมาก ๆ
ชนิดของเครื่องตั้งสายกีต้าร์ มีแบบไหนบ้าง เลือกแบบไหนดี?
เครื่องตั้งสายหลักการทำงานคือการรับความถี่ของเสียงแล้วระบุเป็นตัวโน้ตให้กับผู้เล่น ซึ่งการรับความถี่นั้นทำได้หลากหลายรูปแบบ โดยจะแบ่งเป็น 3 แบบหลัก ๆ คือ
1. รับเสียงโดยตรง
เครื่องตั้งสายที่รับเสียงโดยตรง จะเป็นการรับความถี่เสียงผ่านอากาศ ทำให้เครื่องตั้งสายประเภทนี้ต้องมีไมโครโฟนติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ซึ่งบางทีมาในรูปแบบของแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือซึ่งมีความสะดวกมาก และราคาถูก ในบางแอพอาจจะฟรีด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความไม่เที่ยงตรงเท่ากับแบบอื่น เพราะหากมีเสียงรบกวนอยู่บริเวณรอบ ๆ แล้วจะทำให้ไม่สามารถตั้งสายได้เลย
2. รับความถี่เสียงผ่านเครื่องดนตรี
เครื่องตั้งสายชนิดนี้ จะใช้การรับความถี่ผ่านตัวกลางซึ่งก็คือเครื่องดนตรี โดยเครื่องตั้งสายประเภทนี้ต้องนำไปหนีบกับตัวเครื่องดนตรีเพื่อรับความถี่ผ่านการสั่นสะเทือนของเครื่องดนตรี อย่างเช่น กีต้าร์ก็จะนำไปหนีบที่หัวกีต้าร์เพื่อรับความถี่และแสดงออกมาเป็นตัวโน้ตบนเครื่องตั้งสาย ซึ่งก็จะมีความเที่ยงตรงมากขึ้น และสามารภใช้งานในที่มีเสียงรบกวนได้ แต่หากอยู่ในที่เสียงดังมาก ๆ ก็อาจจะใช้งานไม่ได้เช่นกัน โดยจะมีราคาสูงขึ้นมาเล็กน้อยเริ่มตั้งแต่หลักร้อย
3. รับความถี่จากสัญญาณไฟฟ้า
เครื่องสายชนิดนี้มักจะใช้กับเครื่องดนตรีไฟฟ้า อย่างเช่น กีต้าร์ไฟฟ้า เบส ไวโอลินไฟฟ้า เป็นต้น เป็นการนำความถี่ที่ได้รับเป็นสัญญาณไฟฟ้าไปแสดงเป็นตัวโน้ตซึ่งมีความเที่ยงตรงสูงที่สุดและรวมไปถึงราคาด้วยเช่นกัน ซึ่งในระดับมืออาชีพจะใช้ เครื่องตั้งสาย ในรูปแบบนี้กันเพราะให้ความเที่ยงตั้งสูงที่สุด โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่หลักพันขึ้นไป
จากเครื่องตั้งสายทั้ง 3 รูปแบบ อยากจะแนะนำให้ใช้ในแบบที่ 2 เพราะราคาไม่แพงจนเกินไปสามารถเอื้อมถึงได้และมีความเที่ยงตรงในระดับที่ยอมรับได้ เหมาะกับทุกเครื่องดนตรีไม่ว่าจะเป็นเครื่องอคูสติค หรือเครื่องไฟฟ้า ก็สามารถใช้ได้
และหากใครอยากรู้วิธีการตั้งสายกีต้าร์แบบมืออาชีพสามารถ กดที่นี้ ได้เลย
จัดเลย 12 เครื่องตั้งสายกีต้าร์ ยี่ห้อไหนดี รุ่นแนะนำใช้งานง่าย ราคาไม่แพง
1. Korg Clip-On Tuner ราคา 540 บาท
เครื่องตั้งสายแบบหนีบหัวเครื่องดนตรีที่ราคาไม่แรงและถือว่ามีความเที่ยงตรง ดีใช้ได้ ใช้งานง่าย เป็นรุ่นที่สามารถใช้ตั้งกับกีต้าร์ได้ทุกชนิด รวมไปถึงเครื่องสายด้วย นอกจากนั้นยังมีสีให้เลือกหลากหลายสี
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/BigToneThailand/
2. Musedo T-40 ราคา 350 บาท
เครื่องตั้งสายแบบหนีบอีกเช่นกัน ซึ่งมาในราคาย่อมเยาเอามาก ๆ ใช้งานได้ดี มาพร้อมกับโหมดสำหรับเครื่องดนตรีต่าง ๆ ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นสำหรับมือใหม่ที่ยังตั้งสายไม่ค่อยเคล่อง
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/BNGMUSICTHAILAND/
3. Snark S-1 ราคา 580 บาท
เครื่องตั้งสายแบบหนีบขนาดเล็ก พกพาสะดวก และให้ความเที่ยงตรงสูงมากอีกรุ่นนึง แสดงผลเป็นแบบโครมาติค ไม่มีโหมดช่วยเหลือ แต่ตัวเซนเซอร์มีความเที่ยงตรงมาก แต่อาจจะสับสันนิดหน่อยเพราะตัวหน้าจอหันไปด้านหลังของเครื่องดนตรี
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/hongsengmusicthailand/
4. Planet Waves Micro Universal Tuner ราคา 660 บาท
เครื่องตั้งสายแบบหนีบอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้งานได้ดี เที่ยงตรงและรับสัญญาณได้ดีมาก สามารถติดได้ที่ด้านหน้าและด้านหลังเครื่องดนตรี และสามารถใช้ได้กับทุกเครื่องดนตรีอีกด้วย
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/yongsengmusic/
5. TC Electronic Polytune 3 ราคา 3800 บาท
มาดูเครื่องสายแบบที่รับสัญญาณไฟฟ้ากันบ้าง จะเห็นว่าราคากระโดดขึ้นไปมากเลยทีเดียว แต่อย่างที่บอกไว้ว่าจะให้ความเที่ยงตรงสูงมากกว่าแบบหนีบ และความพิเศษของรุ่นนี้สามารถตั้งสายได้พร้อมกันหลายเส้น เรียกว่า หากใครรีบก็สามารถดีดทุกสายพร้อมกันแล้วตั้งไปพร้อม ๆ กันได้เลย
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/chordtab/
6. TC Electronic Polytune Clip ราคา 1800 บาท
ยังอยู่กับ TC Electronic ซึ่งมาในรุ่นของแบบหนีบด้วย ซึ่งรุ่นนี้ก็สามารถตั้งสายได้พร้อม ๆ กัน หลายสายเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้เลย แต่มาในแบบหนีบ ซึ่งถือว่าพิเศษมาก ๆ เรียกว่าสะดวกสุด ๆ
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/MusicConceptThailand/
7. Mooer CT-01 ราคา 690 บาท
เป็นอีกหนึ่งรุ่นมาตรฐานที่นิยมใช้กัน เพราะมีโหมดที่จะมาช่วยในการตั้งสาย ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับมือใหม่
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/chordtablyrics/
8. Snark SN2 ราคา 580 บาท
เครื่องตั้งสายอีกหนึ่งรุ่นจาก Snark ที่ได้รับความนิยมรุ่นนี้จะมีความพิเศษตรงที่มีเครื่องให้จังหวะมาด้วย จอใหญ่ขึ้นดูง่าย หมุนได้รอบทิศทาง ทำให้ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/MusicArmss/
9. D’Addario Eclipse Tuner ราคา 420 บาท
เครื่องตั้งสายแบบหนีบอีกหนึ่งรุ่นที่มาในราคาไม่แพงมาก สามารตั้งสายได้เที่ยงตรง ใช้งานง่ายและมีหลากหลายสีให้เลือกใช้ จอสว่างดูง่ายได้จากทุกมุม
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/yongsengmusical/
10. Aroma AT-310B ราคา 500 บาท
เครื่องตั้งสายที่อาจจะดูเทอะทะไปหน่อย แต่รับรองว่าใช้งานง่ายให้โหมดการตั้งสายมาด้วย เหมาะสำหรับมือใหม่ ตั้งสายได้หลากหลายเครื่องดนตรี จอสว่าง ให้เสียงที่เที่ยงตรงใช้ได้
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/musicentrance/
11.Boss TU-01 ราคา 360 บาท
สำหรับ Boss ถ้าเล่นกีต้าร์แล้วต้องไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นยี่ห้อที่มีมายาวนานมาก โดยทาง Boss ได้เริ่มต้นทำเครื่องตั้งสายแบบก้อนมาหลายสิบปีแล้ว และได้พัฒนาเป็นแบบนี้อย่างรุ่นนี้ เพราะฉะนั้นไว้ใจได้แน่นอนว่าตัวรับสัญญาณจะเที่ยงตรงแบบสุดๆ ไปเลย
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/TheeraMusic/
12.Boss TU-03 ราคา 2880 บาท
และสุดท้ายนี้ก็มาถึงเครื่องตั้งสายในตำนานอย่าง Boss TU-03 ที่มีใช้กันมาอย่างยาวนาน ถือเป็นเครื่องตั้งสายแบบ Pedal ยอดนิยม เพราะให้ความเสถียรและแม่นยำมาก ถือเป็นรุ่นที่ถ้าใครมีเอฟเฟคบอร์ดแล้วจะขาดกันไปไม่ได้เลยทีเดียว เพราะนอกจากความเที่ยงตรงแล้วยังถึกแบบสุดๆ
ตัวแทนจำหน่าย : https://www.facebook.com/TheeraMusic/
จากเครื่องตั้งสายทั้ง 12 รุ่นที่แนะนำมา อยากจะบอกว่าสามารถเลือกใชได้ตามงบประมาณและความชอบกันได้เลย แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมเมื่อมีเครื่องตั้งสายแล้ว คือการหยิบมาใช้ทุกครั้ง หยิบมาใช้บ่อยๆ ก่อนเวลาเล่นและทำให้ติดจนเป็นนิสัย เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักดนตรีไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋า
