ส่วนประกอบกีต้าร์

มือใหม่หัดเล่นต้องรู้! ส่วนประกอบกีต้าร์ จะได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง

สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเล่นกีต้าร์หรือกำลังสนใจกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ อาจจะแค่เคยเห็นหรือรู้จักมันว่าคือกีต้าร์ แต่จริง ๆ แล้วตัวกีต้าร์นั้นมีส่วนประกอบและรายละเอียดมากมายหลายชิ้นกว่าจะนำมาประกอบเป็นกีต้าร์หนึ่งตัว และสำหรับคนที่อยากจะหัดเล่นกีต้าร์นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องรู้จัก ส่วนประกอบกีต้าร์ เบื้องต้นบ้าง เพราจะมีส่วนช่วยในการเล่นของเราด้วย เหมือนกับการใช้งานอุปกรณ์อย่างถูกต้องนั้นเอง ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของกีต้าร์กัน ทั้งกีต้าร์ไฟฟ้าและกีต้าร์โปร่ง

กีต้าร์ นั้นมีอยู่ 2-3 ชนิดหลัก ๆ แต่ในบทความนี้จะพูดถึงกีต้าร์โปร่งกับกีต้าร์ไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะในกีต้าร์คลาสสิค(กีต้าร์สายไนล่อน)นั้นจะมีส่วนประกอบของกีต้าร์ที่เหมือนกันกับกีต้าร์โปร่งอย่างมาก ถือว่าเป็นกีต้าร์ชนิดเดียวกันที่มีความแตกต่างกันในเรื่องชนิดของสาย โดยบนกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้านั้นก็จะมีส่วนประกอบที่ทั้งเหมือนกันและแตกต่างกัน ในบทความนี้ก็จะพูดถึงความแตกต่างและความเหมือนกันของกีต้าร์ทั้ง 2 ชนิด

ส่วนประกอบกีต้าร์ ที่มือใหม่ควรจะต้องรู้จัก มีอะไรบ้าง

ส่วนประกอบกีต้าร์
ขอบคุณเครดิตภาพจาก freeguitarsource.com

จากรูปภาพที่ยกตัวอย่างมานั้น จะมีส่วนที่ทั้งเหมือนกันและแตกต่างกันทั้งบนกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้า เราจะมาดูกันว่าส่วนที่เหมือนกันนั้นมีอะไรบ้างและใช้งานอย่างไร

 

ส่วนประกอบกีต้าร์ที่เหมือนกันบนทั้งกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้า

1. หัวกีต้าร์ (Head)

เริ่มต้นจากส่วนบนสุดของกีต้าร์นั่น ก็คือส่วนหัวกีต้าร์ซึ่งจะมีหลากหลายรูปทรงขึ้นอยู่กับดีไซน์ของแต่ละยี่ห้อ โดยในส่วนหัวของกีต้าร์มักจะมีโลโก้หรือชื่อรุ่นของกีต้าร์อยู่ รวมไปถึงซีเรียลนัมเบอร์ของกีต้าร์ที่มักจะบอกล็อตที่ผลิตวันเดือนปีประเทศที่ผลิต

นอกจากนั้นในส่วนหัวของกีตาร์ก็ยังมีลูกบิดที่ใช้สำหรับในการใส่สายและตั้งสายให้ตรงอีกด้วย ในบางรุ่นนั้นบริเวณส่วนหัวที่ติดกับคอกีตาร์จะสามารถเปิดออกมาเผื่อตั้งคอกีต้าร์ได้

2. ลูกบิดกีต้าร์ (Tuning Key)

ใช้สำหรับใส่สาย และเมื่อทำการใส่สายแล้ว ก็จะใช้ลูกบิดเป็นตัวตั้งสายให้ตรง โดยสามารถบิดสายให้ตึงขึ้นหรือหย่อนลงได้ โดยลูกบิดก็มีอีกหลายชนิดทั้งแบบล็อคสายและแบบปกติ ในปัจจุบันมีลูกบิดไฟฟ้าที่ตั้งสายให้เราแบบอัตโนมัติแต่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก

3. นัท (Nut)

นัทกีต้าร์

เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างคอกีต้าร์กับหัวกีต้าร์ใช้ในการพาดสายลงบนตัวกีต้าร์เพื่อไม่ให้สายสัมผัสกับคอกีต้าร์โดยตรง นัททำมาจากวัสดุได้หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นพลาสติก โลหะหรือกระดูกสัตว์ ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดก็จะทำให้เสียงที่ได้ออกมาต่างกันออกไป

4. คอกีต้าร์ (Neck)

คอกีต้าร์

คอกีต้าร์นั้นมักจะประกอบด้วยไม้ 2 ชิ้นคือไม้ที่อยู่ด้านหลังคอและไม้ที่อยู่ด้านหน้าซึ่งมักจะใช้ไม้คนละชนิดกัน คอกีต้าร์เป็นส่วนสำคัญของกีต้าร์ที่ต้องให้ความดูแลเพราะส่วนคอของกีต้าร์หากดูแลไม่ดีแล้ว สามารถงอได้และจะส่งผลต่อการเล่นโดยตรง นอกจากนั้นคอกีต้าร์ยังมีชิ้นส่วนอีกหลายอย่างที่ประกอบอยู่บนตัวคอเช่น fret ฟิงเกอร์บอร์ด inlay

5. เฟรต (Fret)

เฟรทกีต้าร์

เป็นโลหะที่ถูกประกอบอยู่บนคอกีต้าร์ เป็นตัวแบ่งช่องบนคอกีต้าร์ ซึ่งแต่ละช่องก็จะหมายถึงโน้ตแต่ละตัว ซึ่งตัวเฟรตหากใช้งานไปนานๆ ก็สามารถสึกได้แต่ก็สามารถหาอะไรเปลี่ยนได้เช่นกัน ตัวเฟรตทำจากโลหะซึ่งก็มีหลายชนิดแต่ละชนิดก็จะให้ความรู้สึกในการเล่นที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย และเฟรตก็ยังมีขนาดให้เลือกอีกด้วย

6. ฟิงเกอร์บอร์ด (Finger Board)

ฟิงเกอร์บอร์ด

หรือสวนไม้ชิ้นหน้าของคอกีต้าร์ซึ่งจะต้องใช้นิ้วของเรากดลงไปบนสายจนสุดบนฟิงเกอร์บอร์ด ซึ่งการกดของผู้เล่นควรจะอยู่ตรงกลางของช่องระหว่างเฟรต เมื่อกดสายลงไปสุดบนฟิงเกอร์บอร์ดและดีดนั้นก็จะทำให้มีเสียงออกมา แต่ถ้าหากกดไม่สุดแล้วดีดก็จะให้สายกีต้าร์นั้นดีดออกมาไม่มีเสียงหรือที่เรียกว่าเสียงบอดนั้นเอง

7. อินเลย์ (Position Makers)

หรือจุดเบาะเครื่องหมายบนคอ จะอยู่บนฟิงเกอร์บอร์ดคอยบอกตำแหน่งช่องบนคอกีตาร์โดยจะบอกตำแหน่งเลขคี่และจะมีช่องเดียวเท่านั้นที่เป็นเลขคู่คือช่องที่ 12 บนคอกีตาร์ เป็นจุดที่คอยเตือนผู้เล่นว่ากดถูกช่องหรือไม่ บางครั้งอาจจะไม่ได้อยู่บนฟิงเกอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่บริเวณด้านของคอกีต้าร์ด้วย ในกีต้าร์รุ่นสูงอาจจะมีการตกแต่งลวดลายให้สวยงาม

8. ตัวกีต้าร์ (Body)

ตัวกีต้าร์นั้นสามารทำได้จากไม้หลาย และเสียงก็จะขึ้นอยู่ชนิดวัสดุที่ถูกนำมาทำเป็นตัวกีต้าร์และตัวกีต้าร์นั้นก็มีส่วนสำคัญมาก ๆ ต่อเสียงของกีต้าร์อีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นส่วนของรูปทรงที่มีผลต่อการเล่นของทั้งผู้เล่น ทั้งเสียงที่ได้ออกมา รูปทรงของกีต้าร์ก็มีผลต่อเสียงด้วย เพราะฉะนั้นก็ควรเลือกรูปทรงที่ถนัดหรือชอบ

ตัวกีต้าร์เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนนึงของส่วนประกอบกีต้าร์ทั้งหมด โดยจากในรูปจะเห็นว่าบนกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้านั้นมีส่วนที่แตกต่างกันค่อนข้างเยอะ ซึ่งในส่วนนี้เองที่ทำให้กีต้าร์ทั้ง 2 ชนิดแตกต่างกัน แต่ก่อนจะพูดถึงในส่วนที่ต่างกันนั้น เราจะมาดูส่วนที่เหมือนกันบนตัวกีต้าร์ก่อน

9. ปิ้กการ์ด (Pick Guard)

เป็นชิ้นส่วนพลาสติคที่ติดอยู่บนตัวกีต้าร์ เพื่อไว้สำหรับกันรอยของปิ๊กจากการดีด เป็นการช่วยปกป้องรอยขีดข่วนที่จะเกิดกับกีต้าร์ของเรา ซึ่งในกีต้าร์บางรุ่นอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับการออกแบบและความชอบ

10. สะพานสาย (Bridge)

เป็นส่วนที่ติดอยู่บนตัวกีต้ารื ใช้สำหรับในการใส่สายที่บริเวณตัวกีต้าร์ โดยสะพานสายบนตัวกีต้าร์ไฟฟ้าและโปร่งนั้นอาจจะทำงานต่างกันนิดหน่อย แต่ก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกันและใช้งานเหมือนกัน โดยสะพานสายก็ส่งผลต่อเสียงของกีต้าร์เช่นกัน

 

ส่วนประกอบกีต้าร์ที่แตกต่างกันของกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้า

คราวนี้เราจะมาดูในส่วนของส่วนประกอบของกีต้าร์ที่แตกต่างกันบ้าง ว่าทั้งสองชนิดนั้นมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน

ส่วนประกอบกีต้าร์โปร่งที่กีต้าร์ไฟฟ้าไม่มี

แน่นอนว่าองค์ประกอบหรือส่วนประกอบของกีต้าร์โปร่งและกีต้าร์ไฟฟ้าย่อมมีส่วนที่แตกต่างกันออกไป โดยมักจะเป็นส่วนที่เป็นจุดเด่นเฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงความเป็นกีต้าร์ในแต่ละประเภทนั่นเอง

1. รูเสียง (Sound Hole)

ซาวโฮล

เป็นส่วนที่ชัดเจนว่าบนกีต้าร์ไฟฟ้านั้นไม่มีอย่างแน่นอน และเป็นส่วนสำคัญของกีต้าร์โปร่ง ที่ทำให้กีต้าร์โปร่งมีเสียงก้องกังวาล โดยเวลาเราดีดกีต้าร์โปร่งนั้นเสียงจะเข้าไปภายในตัวกีต้าร์และทำให้มีเสียงที่ดังออกมาจากภายในรูเสียงนั้นเอง ซึ่งทำให้กีต้าร์โปร่งนั้นมีเสียงเป็นเอกลักษณ์อย่างที่พวกเราได้ยินกัน

2. หย่อง (Saddle)

หย่อง

เป็นส่วนประกอบกีต้าร์โปร่ง ที่ใช้ในการพาดสายที่จะมีความแตกต่างจากสะพายสายบนกีต้าร์ไฟฟ้า ซึ่งหย่องนั้นสามารถปรับแต่งให้สายกีต้าร์นั้นมีระดับความสูง-ต่ำได้ตามต้องการ แต่การปรับแต่งอาจจะต้องให้ช่างมืออาชีพในการทำ เพราะหากทำผิดพลาดอาจจะต้องเปลี่ยนหย่องได้เลย

 

ส่วนประกอบกีต้าร์ไฟฟ้าที่กีต้าร์โปร่งไม่มี

โดยในส่วนที่กีต้าร์ไฟฟ้ามีนั้นก็จะเป็นส่วนของภาคไฟฟ้าที่เข้ามาจัดการเรื่องสัญญาณที่กีต้าร์โปร่งไม่จำเป็นต้องมี ถ้าเทียบกันนั้นก็เหมือนกับรูรับเสียงของกีต้าร์โปร่งนั้นเอง

1. ปิคอัพ (Pick Up)

ปิคอัพกีต้าร์

เป็นชิ้นส่วนที่จะถูกประกอบไว้บนตัวกีต้าร์ไฟฟ้า เป็นตัวรับสัญญาณการสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์และแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยปิดอัพนั้นก็จะมีชนิด2ชนิดแบบ Single Coil และ Humbuckers ซึ่งก็จะให้เสียงที่แตกต่างกัน รวมไปถึงตำแหน่งของปิคอัพที่วางอยู่บนตัวกีต้าร์ไฟฟ้าก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันไป อย่างปิดอัพที่ว่าติดกับบริเวณคอกีต้าร์ก็ให้เสียงที่ทุ้ม หนา ส่วนปิคอัพที่วางใกล้กับสะพานสายก็จะให้เสียงที่แหลม พุ่ง ต่างกันอย่างชัดเจน

2.สวิตปิคอัพ (Pickup Selector Switch)

ปิคอัพสวิต

เป็นสวิตที่ใช้ในการเลือกปิคอัพ ว่าผู้จะรับเสียงจากปิคอัพตัวไหนบนตัวกีต้าร์ซึ่งได้อธิบายไปแล้วว่าปิคอัพบนตัวกีต้าร์ไฟฟ้านั้นแต่ละตำแหน่งให้เสียงที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องมีสวิตปิคอัพในการสลับสับเปลี่ยนปิคอัพไปมาเพื่อให้ได้เสียงที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น

3.ปุ่มปรับความดังและโทนเสียง (Tone/Volume Control)

เป็นปุ่มหมุนที่จะใช้ปรับระดับความดังและโทนเสียงของกีต้าร์ไฟฟ้า อาจจะมีจำนวนปุ่มบนตัวกีต้าร์ไฟฟ้าไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับรุ่นและดีไซน์ของแต่ละแบรนด์ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจและฝึกใช้ โดยปุ่มเหล่านี้ถูกใช้งานจากผู้เล่นอย่างแน่นอน

4. รูแจ็ค (Output Jack)

รูแจ็คกีต้าร์

เป็นช่องสำหรับเสียบสายส่งสัญญาณจากตัวกีต้าร์ไฟฟ้าไปยังตู้ลำโพงเพื่อทำการขยายเสียง โดยรูแจ็คนั้นหากใช้งานไปนานอาจจะมีอาการหลวมได้ อาจจะต้องดูแลรักษาในส่วนของการใช้งานด้วย

จากส่วนประกอบกีต้าร์ทั้งหมดที่นำมาให้ดูกันในบทความนี้ เป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่ผู้เล่นมือใหม่ควรจะต้องทำความรู้จักเอาไว้ เพราะถ้ารู้ส่วนประกอบกีต้าร์เหล่านี้แล้ว ก็จะมีความเข้าใจในเครื่องดนตรีของเรามากขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้เล่นอย่างแน่นอน