เปียโน มีอะไรบ้าง

5 สิ่งสำคัญที่ควรรู้เมื่อเริ่มเล่นเปียโน สำหรับมือใหม่ อ่านเข้าใจง่าย

เมื่อพูดถึงเปียโนแล้วถือได้ว่าเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ รูปทรงที่สวยงามและเป็นเครื่องดนตรีที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน จึงทำให้เครื่องดนตรีชนิดนี้ได้รับความนิยมในระดับสากล และบทความนี้จะมาทำความรู้จักกับเครื่องดนตรีที่มีชื่อว่า “ เปียโน ” กันครับ

 

 

 

เปียโน คือ

เปียโนจัดอยู่ในหมวดเครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลิ่มนิ้ว (Keyboard Instruments) นั้นก็คือเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้การกดลิ้มนิ้วเพื่อให้ค้อนเคาะสายภายในตัวเปียโนเพื่อให้เกิดเสียงตามที่ต้องการ ซึ่งลักษณะการทำให้เกิดเสียงแบบนี้และกลไกการควบคุมความสั้นความยาวของเสียงที่เล่นได้นั้นก็ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดนตรีชนิดนี้เลยก็ว่าได้

 

บทความแนะนำเพิ่มเติม : แนะนำ 3 หลักสูตรเรียนเปียโน ยอดนิยมที่ดีและน่าเรียน สำหรับเด็ก-ผู้ใหญ่

 

1. ส่วนประกอบของเปียโน มีอะไรบ้าง

เปียโนนั้นประกอบไปด้วยชิ้นส่วนต่างๆที่สำคัญดังต่อไปนี้

  1. คีย์บอร์ด ( Keyboard )
  2. สายเปียโน ( Strings )
  3. ค้อนเคาะสาย ( Hammer )
  4. ตัวห้ามสาย ( damper )
  5. ซาวบอร์ด ( Sound Board )
  6. สะพานสาย ( Bridges )
  7. เพลท ( Plate )
  8. พินบล็อค ( Pinblock )
  9. คันเหยียบ ( Pedal )

 

ส่วนประกอบของเปียโน

คีย์บอร์ด ( Keyboard )

คีย์บอร์ดของเปียโน

เปียโน สมัยใหม่โดยทั่วไปจะมีคีย์ทั้งหมด 88 คีย์ (โดยมีโน้ตตั้งแต่ A0 ถึง C8 สามารเล่นโน้ตได้มากกว่า 7 Octave เล็กน้อย) เปียโนรุ่นเก่าหลายตัวมีคีย์เพียง 85 คีย์ (ตั้งแต่ A0 ถึง A7) ผู้ผลิตบางรายก็อาจจะเพิ่มปริมาณคีย์ให้มากกว่านั้น โดยบ้างก็เพิ่มเพียงฝั่งเดียวบ้างก็เพิ่มทั้งสองฝั่ง ตัวอย่างที่ดีที่สุดก็คือเปียโน catting ซึ่งบางตัวเพิ่มคีย์เสียงต่ำลงไปกว่าปกติจนถึง F0 ( ฟา ออกเทฟที่ 0 ) บางทีต่ำลงไปจนถึง C0* ( โด ออกเทฟที่ 0 ) เลยก็มี ทำให้มีครบ 8 octave บางรุ่นอาจจะซ่อนคีย์พิเศษที่เพิ่มขึ้นมานี้ไว้ใต้ฝาปิดเล็ก ๆ

ซึ่งสามารถปิดคีย์เอาไว้ได้เพื่อป้องกันไม่ให้นักเปียโนที่คุ้นเคยกับเปียโนปกติเห็นแล้วเกิดความสับสนกับคีย์พิเศษที่เพิ่มขึ้นมา บางตัวก็อาจจะสลับสีคีย์พิเศษที่เพิ่มขึ้นมาเหล่านี้ (สลับดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ) ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นเอง คีย์ที่เพิ่มขึ้นมานั้นโดยมากแล้วก็มีไว้เพื่อสร้างเสียงสะท้อน (resonance) ได้มากขึ้น ซึ่งก็คือมันจะสั่นไปพร้อมกับสายเปียโนเส้นอื่น ๆ เมื่อใดก็ตามที่เหยียบคันเหยียบ ซึ่งก็จะให้เสียงได้เต็มกว่า มีเพลงที่แต่งขึ้นมาสำหรับเปียโนไม่กี่เพลงนักที่จะใช้คีย์พิเศษเหล่านี้

 

สายเปียโน ( Strings )

สายเปียโน grand

สายเปียโน upright

สายเปียโนจะถูกขึงกับเฟรมเหล็กเรียกว่าเพลท (plate) โดยด้านหนึ่งจะถูกยึดไว้กับหมุดซึ่งสามารถที่ปรับความตึงของสายได้ไว้สำหรับให้ช่างเปียโนสามารถจูนเสียงโดยการหมุนหลักหมุดเพื่อปรับความตึงของสายในแต่ละด้าน เปียโนที่ให้เสียงแต่ละคีย์มีความถูกต้อง

 

ค้อนเคาะสาย ( Hammer )

ค้อนเคาะสายเปียโน

ตัวค้อนเป็นไม้หุ้มด้วยสักหลาด ทำหน้าที่ในการตีกระทบกับสายเพื่อให้เกิดเสียงตามคีย์ที่กด ซึ่งแน่นอนว่านอกจากตัวสายเปียโนแล้วรูปทรงของค้อนและวัสดุที่ใช้ทำก็มีผลต้องคุณภาพของเสียงที่ได้เช่นกัน โดยที่เปียโนแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นก็จำมีรูปทรงของค้อนที่แตกต่างกันไป

 

ตัวห้ามสาย ( Damper )

ตัวห้ามสายของเปียโน

ตัวห้ามสาย มีลักษณะเป็นลิ้นไม้หุ้มด้วยสักหลาด มีลักษณะที่คล้ายกับค้อน มีหน้าที่ในการหยุดเสียงของสายเปียโน โดยตัว damper จะวางอยู่บนตัวสายเปียโนและเมื่อเรากดคีย์กลไกจะยกตัว Damper ขึ้นพร้อมกับค้อนตีไปที่สายทำให้เกิดเสียงและเมื่อปล่อยนิ้วออกจากคีย์ตัว damper ก็จะกลับมากดตัวสายเปียโนเพื่อหยุดการสั่นของสายเปียโน

 

ซาวบอร์ด ( Sound Board )

ซาวบอร์ดของเปียโน

เป็นแผ่นไม้สนหรือไม้โอ๊คมีการติดตั้งโครงด้านใต้เรียกว่าริบส์ ( ribs ) มีลักษณะเป็นไม้ซี่หลายขนาดเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ตัวซาวบอร์ดทำหน้าที่ในการขยายเสียงให้เกิดความดังและกังวาน ซึ่งตัวซาวบอร์ดนั้นมีความสำคัญต่อเอกลักษณ์เสียงที่ได้ของเปียโน

 

สะพานสาย ( Bridges )

สะพานสายของเปียโน

สะพานสายจะถูกติดตั้งอยู่บนซาวบอร์ดด้านบนจะรองรับสายเปียโนโดยหน้าที่ของมันคือการส่งความสั่นสะเทือนของสายเปียโนไปยังซาวบอร์ดเพื่อขยายเสียง สะพานสายมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ

  • Treble bridge จะเป็นสะพานสายที่ใช้กับสายเปียโนที่มีเสียงที่อยู่ในย่านเสียงสูง ลักษณะของตัวสะพานสายจะมีลักษณะยาว โค้ง ส่วนด้านที่ทำให้เกิดเสียงต่ำจะสั้นกว่า
  • Bass bridge เป็นสะพานสายที่ใช้กับสายเปียโนที่มีเสียงที่อยู่ในย่านเสียงต่ำ ลักษณะของตัวสะพานสายจะมีลักษณะที่สั้นกว่าตัว Treble bridge

 

เพลท ( Plate )

เพลท เปียโน

เป็นโครงโลหะภายในเปียโนมีหน้าที่เสริมความแข็งแกร่งและเป็นตัวยึดสายเปียโน ซึ่งจะต้องสามารถรองรับแรงดึงของสายได้

 

พินบล็อค ( Pinblock )

พินบล็อค เปียโน

เป็นตัวที่ใช้สำหรับยึดตัวหมุดปรับเสียง ( Tuning pins ) ทำจากไม้เนื้อแข็ง

 

คันเหยียบ ( Pedal )

คันเหยียบเปียโน

คันเหยียบเป็นอุปกรณ์ที่เป็นการเพิ่มลูกเล่นในการเล่นเปียโนซึ่งในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 เปียโนในยุคนั้นตัวคันเหยียบ ( pedal ) จะใช้การควบคุมด้วยเข่าของผู้เล่น คันเหยียบถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่เปียโนต้องมี

คันเหยียบโดยทั่วไปของเปียโนนั้นจะมีอยู่ 3 อัน และเปียโนบางตัวจะมีคันเหยียบ 2 อัน โดยคันเหยียบ 2 อันจะเทียบได้กับ คันเหยียบอันซ้ายและคันเหยียบอันขวาของเปียโนที่มีคันเหยียบ 3 อัน ซึ่ง คันเหยียบแต่ละอันนั้นมีลูกเล่นในการควบคุมดังนี้โดยจะของอ่างอิงจากเปียโน 3 คันเหยียบ

 

1. คันเหยียบอันซ้าย ( Soft Pedal )

 

คันเหยียบอันซ้าย ของเปียโน

มีไว้เพื่อลดความดังของเสียงเปียโน ในแกรนด์เปียโน เมื่อเราเหยียบคันเหยียบอันนี้แล้ว ชุดของคีย์บอร์ดรวมทั้งไม้ค้อนจะขยับไปทางซ้ายหรือทางขวาเล็กน้อย เพื่อให้ไม้ค้อนตีถูกสายจำนวนน้อยลง (โดยทั่วไปแต่ละคีย์โน้ตของเปียโนจะมีสายเปียโนอยู่ตั้งแต่ 1ถึง 3 สายหรืออาจจะมากกว่านั้น ) ทำให้เสียงเบาลง ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า (Una Corda แปลว่า สายเส้นเดียว)

ส่วนในอัพไรท์เปียโน เมื่อเราเหยียบคันเหยียบอันนี้แล้ว จะมีคานมาดันชุดไม้ค้อนให้ขยับเข้าไปใกล้กับสายมากขึ้น ทำให้เมื่อกดคีย์แล้ว ไม้ค้อนจะเหวี่ยงตัวได้น้อยกว่าปกติ แรงที่เคาะสายจึงน้อยลงด้วย ทำให้เสียงที่ได้เบาลง และได้เสียงที่นุ่มลงกว่าเดิม แต่เมื่อเรายกเท้าจากคันเหยียบอันนี้เสียงเปียโนก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

 

2. คันเหยียบอันกลาง ( Sostenuto Pedal , Muffler Pedal )

 

คันเหยียบอันกลาง ของเปียโน

ในแกรนด์เปียโนเรียกว่า Sostenuto Pedal เมื่อเหยียบแล้ว จะดำรงเสียงของตัวโน้ตที่กดไว้ก่อนเหยียบคันเหยียบนี้เท่านั้น โดย damper จะเปิดขึ้น (โน้ตอื่น ๆ ที่กดหลังจากเหยียบคันเหยียบ damper จะทำงานปกติ ทำให้เสียงสิ้นสุดเมื่อปล่อยนิ้ว)

ส่วนในอัพไรท์เปียโน เรียกว่า Muffler Pedal มีไว้เพื่อลดความดังของเปียโน เมื่อเราเหยียบคันเหยียบอันนี้แล้ว จะมีผ้ามากั้นระหว่างค้อนกับสาย เพราะฉะนั้นเมื่อเรากดคีย์ เสียงที่ได้จะเบาลง คันเหยียบอันนี้มีความพิเศษก็คือ มันจะมีช่องสำหรับให้คันเหยียบอันนี้ค้างอยู่ได้ จึงทำให้เราไม่ต้องเมื่อยเมื่อต้องใช้เสียงเบา หรือต้องการใช้ dynamic แบบนี้นาน ๆ ได้

และเรายังสามารถปรับความดัง-เบา นุ่มลึกได้โดยการปรับระดับของแผ่นผ้าที่เคลื่อนลงมากั้นระหว่างค้อนเมื่อจะเคาะสายเปียโนได้อีกด้วย (แต่การปรับนั้นต้องเปิดฝาข้างล่างของเปียโนก่อน) ในอัพไรท์เปียโนมักใช้คันเหยียบนี้ในการซ้อมเปียโนเวลาไม่ต้องการให้มีเสียงดังมาก

 

3. คันเหยียบอันขวา ( Damper Pedal )

 

คันเหยียบของเปียโน

คันเหยียบอันนี้มักจะถูกใช้บ่อย ซึ่งคำว่า pedal หรือ sustain ที่เราใช้เรียกอุปกรณ์ชิ้นนี้นั้นก็มาจากการทำงานของคันเหยียบตัวนี้ นั่นคือมันมีไว้เพื่อลากเสียงของโน้ตให้ยาวขึ้น คือเมื่อเรากดคีย์เปียโน 1 ครั้งและยกมือออกจากคีย์ เสียงก็จะหยุดทันที

แต่คันเหยียบตัวนี้จะเป็นการยกตัวห้ามเสียงทั้งหมดขึ้นทำให้โน้ตที่เล่นมีเสียงยาวขึ้นโดยที่เราไม่ต้องกดคีย์นั้นๆ ค้างไว้ เพื่อจะสามารถเล่นคีย์โน้ตตัวอื่นได้ ทำให้เป็นการเพิ่มขีดความสามารถและลูกเล่นให้กับผู้เล่น

 

2. ประเภทของเปียโน แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร ?

เปียโนในปัจจุบันนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้

 

แกรนด์เปียโน ( Grand Piano )

แกรนด์เปียโนเป็นประเภทของเปียโนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเนื่องจากการวางโครงสร้างภายในหรือซาวน์บอร์ด ( sound board ) นั้นจะมีการจัดวางในแนวนอนการขึงลวดอยู่ในแนวนอนด้วยเช่นกันทำให้ลักษณะการเคาะของค้อนที่ใช้ในการเคาะสายจะเป็นการเคาะจากด้านล้างของสาย ในกลุ่มของแกรนด์เปียโนนั้นก็ยังมีการแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆตามขนาดของตัวเปียโนได้อีก 3 ประเภทคือ

  1. คอนเสิร์ตแกรนด์ เป็นแกรนด์เปียโนที่ขนาดประมาณ 3 เมตร
  2. แกรนด์ มีขนาดประมาณ 1.8 เมตร
  3. เบบี้แกรนด์ จะเป็นแกรนด์เปียโนที่มีขนาดเล็ก

โดยความยาวของส่วนซาวน์บอร์ด ( sound board ) นั้นจะมีขนาดที่สั้นกว่าความยาวของส่วนคีย์บอร์ด โดยทั่วไปแล้วเปียโนที่มีโครงสร้างซาวน์บอร์ด ( sound board ) และเส้นลวดยิ่งมีความยาวมากก็จะทำให้คุณภาพของเสียงที่ได้ก็จะดียิ่งขึ้น ดังนั้น แกรนด์เปียโนจึงเหมาะกับการเล่นในงานแสดงแต่ด้วยขนาดของแกรนด์เปียโนที่มีขนาดใหญ่นั้นอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในบ้านหรือมีพื้นที่จำกัด

 

อัพไรท์เปียโน ( Upright Piano)

อัพไรท์เปียโนเป็นเปียโนที่มีการออกแบบการวางตำแหน่งโครงสร้างภายในหรือซาวน์บอร์ด ( sound board ) ที่แตกต่างไปจากแกรนด์เปียโนโดยการจัดวางจะอยู่ในแนวตั้ง ซึ่งเป็นการออกแบบที่ทำให้ช่วยในการลดขนาดเหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น บ้านพักอาศัยทั่วไป

และการที่ตัวเปียโนถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กและมีการจัดวางตำแหน่งโครงสร้างภายในหรือซาวน์บอร์ด ( sound board ) ไว้ในแนวตั้ง ทำให้คุณภาพเสียงที่ได้อาจจะสู้กับแกรนด์เปียโนไม่ได้และความรู้สึกในการกดคีย์บอร์ดเวลาเล่นนั้นก็อาจจะมีความแตกต่างกัน

 

เปียโนไฟฟ้า ( Electric piano)

เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นรูปแบบเปียโนก็มีการพัฒนาไปตามยุคสมัย เปียโนไฟฟ้าก็ถือว่าเป็นการพัฒนาไปอีกรูปแบบเพื่อตอบสนองผู้เล่น ซึ่งการกำเนิดเสียงนั้นจะเป็นการจำลองเสียงของเปียโนโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีส่วนของโครงสร้างยึดสายและตัวค้อนเคาะสาย

ซึ่งก็จะทำให้ตัวเครื่องนั้นมีขนาดที่เล็กกว่ารูปแบบเปียโนชนิดอื่นๆและมีการทำให้ความรู้เวลากดคีย์นั้นให้มีความเหมือนกับเปียโนจริงเพื่อให้ได้ความรู้สึกคล้ายกับเปียโนจริง ในส่วนของเสียงที่ได้นั้นแน่นอนว่าเปียโนไฟฟ้าเป็นการใช้โปรแกรมในการจำลองเสียเปียโนขึ้นมาซึ่งเสียงที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

และด้วยขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องที่เบาทำให้ง่ายในการเคลื่อนย้ายตำแหน่ง ด้วยความที่เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์การดูแลรักษาก็จะง่ายกว่าเปียโนไม้ที่จะต้องมีการดูแลที่ยุ่งยากกว่า

บทความเพิ่มเติม : แนะนำ 10 เปียโนไฟฟ้า ยอดนิยม รุ่นไหนขายดี พร้อม Buying Guide 2020

 

ประภทของเปียโน

3. การดูแลรักษาเปียโน อย่างไรให้ถูกวิธี

แน่นอนว่านอกจากที่เราจะรู้จักชิ้นส่วนและประเภทต่างๆ ของเปียโนแล้วสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการดูแลรักษาเครื่องดนตรีของเราให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยเรามีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

  • ตำแหน่งที่ตั้งเปียโนควรห่างจากผนัง 6-10 นิ้ว อยู่ในอุณหภูมิประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส ไม่วางใกล้หน้าต่างเพื่อป้องกันความชื้น ไม่วางใกล้เครื่องปรับอากาศและแหล่งความร้อนหรือโดนแดดเป็นเวลานานหรือมากจนเกินไปเนื่องจากอุณหภูมิและแสงแดดอาจจะส่งผลต่อตัวไม้ภายนอกและอุปกรณ์ภายในได้ และพื้นที่ตั้งควรมีความเรียบเสมอกันและสมดุล
  • ควรมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะมีการเล่นหรือไม่ก็ตามโดยการใช้ผ้าที่มีความนุ่มเช็ดทำความสะอาด
  • ส่วนของตัวคีย์บอร์ดควรมีผ้าที่มีความนุ่มคลุมเพื่อป้องกันฝุ่น และในการทำความสะอาดส่วนคีย์บอร์ดควรใช้ผ้าที่มีความนุ่มชุบน้ำผสมสบู่บิดหมาด เช็ดทำความสะอาด สิ่งที่ต้องระวังคือห้ามใช้แอลกอฮอล์ ทินเนอร์ หรือเคมีภัณฑ์ทุกชนิดในการทำความสะอาด
  • ในส่วนของผิวที่มีการขัดมัน สามารถใช้ขี้ผึ้งซิลิกอนหรือครีมสำหรับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ทำความสะอาดได้
  • ไม่ควรวางสิ่งของทุกชนิดไว้บนเปียโน
  • ควรระวังความเสียหายที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงต่างหรือแมลงชนิดต่างๆที่อาจจะอยู่ภายในบ้าน
  • ก่อนการเล่นทุกครั้งควรทำความสะอาดมือเสมอ
  • ควรจะต้องมีการตั้งสายเปียโนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งโดยผู้ที่มีความชำนาญ
  • ควรจะให้ช่างเทคนิคเปียโนมาตรวจสอบการทำงานของกลไกต่างๆของตัวเปียโนว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ทุกๆ 2-5 ปี
  • อย่าซ่อมเปียโนด้วยตัวเองหรือผู้ที่ไม่มีความชำนาญ เพราะอาจจะจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นเนื่องจากเปียโนนั้นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะและผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมแซม

 

4. อายุมีผลต่อการเริ่มเล่นเปียโนจริงหรือ ?

สำหรับเปียโนแล้ว ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเร่มต้นฝึกเรียนหรือฝึกเล่น เช่นเดียวกันกับเครื่องดนตรีชนิดอื่น เพราะการเล่นดนตรีสามารถเริ่มเล่นได้ในทุกช่วงอายุทุกวัยเลยทีเดียว ในแต่ละรุ่นก็จะมีพัฒนาการในการเล่นที่ต่างกันออกไป จากประสบการณ์ของผู้เขียน ส่วนของเปียโนจะมีผู้เริ่มฝึกเล่นอยู่ 4 รุ่นใหญ่ๆด้วยกัน คือ

  • รุ่นเด็กเล็ก จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 3-9 ปี ในรุ่นนี้จะมีพัฒนาการฟังที่ดีมาก เด็กจะหูดีกว่ารุ่นอื่น แต่ว่าขนาดของมือยังเล็ก และกล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรงมากนัก จึงต้องใช้เวลาในการฝึกเล่นนานกว่ารุ่นอื่น
  • รุ่นเด็กโต จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 10-18 ปี เด็กในรุ่นนี้จะเริ่มมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อนิ้วมากขึ้น และเริ่มมีขนาดมือที่เหมาะสมกับคีย์เปียโน สามารถฟังและจับจังหวะได้ เรียนรู้ได้เร็ว มีความกระตือรือร้น ชอบความท้าทาย มีสมาธิฝึกซ้อมได้ในเวลานาน ทำให้มีพัฒนาการที่สูงกว่ารุ่นอื่น
  • รุ่นผู้ใหญ่ จะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 19-40 ปี เป็นช่วงอายุวัยเรียน วัยทำงาน มีความเข้าใจเพลงได้ง่าย เรียนรู้ง่าย แต่ในรุ่นนี้มือจะเริ่มแข็งเนื่องจากไม่ได้ฝึกเล่นตั้งแต่เล็ก จะควบคุมนิ้วไม่ได้อย่างใจคิด เวลาในการฝึกเล่นจะขึ้นอยู่กับการซ้อมของแต่ละคน
  • รุ่นมีอายุ จะมีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป สามารถฝึกเล่นได้เช่นกัน เป็นการพัฒนาทักษะทางด้านร่างกายโดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็ก และยังช่วยพัฒนาทักษะทางความคิดอีกด้วย แต่ผู้เริ่มต้นฝึกเล่นในรุ่นนี้จะมีนิ้วที่แข็ง อาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการฝึกซ้อม

 

5. หลักการเลือกซื้อเปียโนเบื้องต้น สำหรับมือใหม่

1. วัตถุประสงค์การใช้งาน

นอกจากการซื้อเปียโนมาเพื่อเล่นและฝึกซ้อมแล้วเปียโนก็ถือได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้อีกด้วย ซึ่งมีหลายคนที่ซื้อเปียโนมาเพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้าน และเปียโนแต่ละประเภทก็ตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกัน เช่น

      • การซื้อเปียโนมาเพื่อการฝึกซ้อม

สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มฝึกเปียโนแล้ว อาจจะมีหลายคนแนะนำให้ลงทุนซื้อเปียโนประเภท อัพไรท์เปียโน หรือ แกรนด์เปียโน ครั้งเดียวแล้วใช้ยาวๆไปเลย แต่แน่นอนว่าเปียโน 2 รุ่นนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูงและมีการดูแลที่ยุ่งยากจึงอาจจะไม่เหมาะกับนักดนตรีมือใหม่ ซึ่งเปียโนไฟฟ้าอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับมือใหม่ และมีหลายคนคิดว่าจะใช้คีย์บอร์ดไฟฟ้าหรืออิเล็กโทนในการฝึกซ้อมแทน ซึ่งผู้เขียนไม่แนะนำเนื่องจากคีย์บอร์ดไฟฟ้าจะมีจำนวนคีย์ที่น้อยกว่าเปียโนและสัมผัสและน้ำหนักการกดคีย์จะไม่เหมือนกับเปียโน

      • การซื้อเพื่อเป็นเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก

ถ้าเป็นการซื้อเพื่อความสวยงามแล้วเปียโนประเภทอัพไรท์เปียโน หรือ แกรนด์เปียโน ก็จะเหมาะสมกว่า แต่ก็ต้องพิจารณาความเหมาะสมกับขนาดพื้นที่และตำแหน่งที่ตั้งด้วยว่าเปียโนประเภทไหนจะเหมาะสมกว่า

2. ตำแหน่งและขนาดพื้นที่ตั้งเปียโน

แน่นอนว่าเปียโนเป็นเครื่องดนตรีขนาดใหญ่และเคลื่อนย้ายลำบากดังนั้นจึงควรจะคำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้งและขั้นตอนการขนย้าย เช่น เรื่องขนาดความกว้างของประตูทางเข้าห้องที่จะติดตั้งก่อนที่จะเลือกรุ่นหรือชนิดเปียโนที่เหมาะสม เช่น ถ้ามีพื้นที่ไม่มาก อัพไรท์เปียโน กับ เปียโนไฟฟ้า อาจจะเหมาะสมกว่า

3. งบประมาณ

เรื่องงบประมาณถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญมากเนื่องจากเปียโนแต่ละประเภทแต่ละรุ่นก็จะมีราคาที่หลากหลายมากตามความต้องการของผู้ซื้อ ดังนั้นจึงควรที่จะกำหนดงบประมาณของเปียโนไว้ก่อนที่จะไปเลือกรุ่นเพื่อให้ง่ายในการตัดสินใจและสามารถคุมงบประมาณไม่ให้บานปลายได้

4. ความถนัดในการใช้งานและคุณภาพเสียงที่ได้

แน่นอนว่าการที่เราจะซื้อเปียโนหรือเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือเราต้องอยากที่จะเล่นมันดังนั้นก่อนที่เราจะซื้อเปียโนนั้นเราจึงควรที่จะไปลองเล่นมันก่อนว่าเราชอบมันหรือไม่ก่อนที่จะซื้อไม่ว่าเราจะเป็นมือใหม่ก็ตาม ไม่ควรเชื่อจากการดูรีวิวเพียงอย่างเดียว หรือเลือกเพราะรุ่นนี้แบรนด์นี้เป็นที่นิยมเท่านั้น

 

แหล่งที่มาของข้อมูล

https://th.wikipedia.org/wiki/เปียโน